[ที่สุดของ Mini PC] หลังได้ชื่อว่าเป็น “ที่สุดของ Mini PC” ประจำปี 2024 มาแล้ว ล่าสุดทาง ASUS กลับมาสานต่ออีกครั้ง พบกับ ROG NUC รุ่นใหม่ประจำปี 2025 โดยมาพร้อมซีพียู Intel Core Ultra 200 Series กับ RTX 50 Series เจนใหม่ล่าสุด ยกระดับประสิทธิภาพขึ้นโข พร้อมดีไซน์ดุดันกว่าเดิม
จะเป็นอย่างไร หากได้เครื่อง PC สเปกระดับ Intel Core Ultra 9 275HX และ RTX 5080 กันเลย มาอยู่ใน Mini PC ที่ขนาดเล็กยิ่งกว่า PlayStation 5 ซะอีก ทั้งเป็นขุมพลัง PC ตัว Top ที่ถือหิ้วเป็นเครื่องเล่นเกม Console รุ่น Slim ได้ยังไงยั้งงั้น และยังมาพร้อมการอัปเกรด RAM กับ SSD ที่ทำได้ง่ายผ่านการขันน็อตตัวเดียว
นอกจากตัว ASUS ROG NUC (2025) ก็ยังมีเซ็ตเกมมิ่งเกียร์จาก ROG ที่ประกอบไปด้วย คียบอร์ด เมาส์ หูฟัง และจอ OLED จาก ROG ที่มาพร้อมอัตราการรีเฟรชสูงถึง 610Hz กันเลย ลองดูรีวิวทั้งหมดได้ที่
รายละเอียดสเปก ASUS ROG NUC (2025) RNUC15JNK9X28AAU

- Model : ASUS ROG NUC (RNUC15JNK9X28AAU)
- CPU : Intel® Core™ Ultra 9 Processor 275HX
- GPU : NVIDIA® GeForce RTX™ 5080 Laptop GPU
- RAM : 32GB DDR5 6400 SO-DIMM (16GB x 2) (Max 96GB Dual Channel)
- Storage : 2TB M.2 2280 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD
- Wireless : Intel® Wi-Fi 7 BE200
- Bluetooth : 5.4
- LAN : Intel® 2.5 Gb Ethernet
- Front (Side) I/O Ports : 2 x USB 3.2 Gen2 Type-A , 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C , 1 x 3.5mm Combo Audio Jack
- Back I/O Ports : 1 x Thunderbolt 4 Type-C w/ DisplayPortTM 2.1 , 4 x USB 3.2 Gen 2 Type-A , 2 x HDMI 2.1 FRL , 2 x DP 2.1 , 1 x RJ45 LAN , 1 x DC-in , 1 x Kensington Lock
- Dimensions (W x D x H) : 282.4mm x 187.7mm x 56.5mm
- Weight : 3.12 KG
แกะกล่อง

หน้าตาตัวกล่อง ASUS ROG NUC (2025) ก็ยังคล้ายกับ ROG NUC รุ่นก่อนหน้า ทว่ารอบนี้มีอุปกรณ์ภายในกล่องไม่เหมือนกัน โดยในกล่องก็มีตัวเครื่อง ROG NUC (2025) กับชุดไฟเลี้ยง AC Adapter+Power Cord และชุดคู่มือกับใบรับประกัน

นอกจากตัว ROG NUC (2025) แล้ว รอบนี้ทาง ASUS ก็ส่งชุดเซ็ต ROG เกมมิ่งเกียร์ ทั้งเมาส์ ROG Keris II Origin , คียบอร์ด ROG Falcata , หูฟัง ROG Pelta และแผ่นรองเมาส์ ROG Scabbard II

สุดท้ายก็มี ROG Strix ACE XG248QSG จอ Super TN เกมมิ่งตัวเทพ ที่มาพร้อมอัตราการรีเฟรช (OC) สูงสุดถึง 610Hz กันเลย โดยหากประกอบครบเซ็ตแล้วจะเป็นยังไงบ้าง เดี๋ยวมาดูกัน
งานออกแบบ

เทียบกับ ROG NUC (2024) รุ่นก่อนแล้ว ตัว ROG NUC รุ่นปี 2025 นี้ มีดีไซน์ใหม่ที่ดูดีกว่าชัดเจน โดยคูณความเท่ไปอีก 3 เท่า รูปทรงดูเหมือนเป็นอุปกรณ์ Sci-Fi หลุดจากหนัง หากแต่เป็น Mini PC ที่มีหน้าตาดุดันที่สุดในโลกแล้ว

ตัวเครื่องมาพร้อมสีดำด้านทั้งตัว ฝาข้างฝั่งหนึ่งก็มีช่องระบายความร้อนพร้อมโล้โก้ ROG เด่นชัด ส่วนอีกฝั่งก็มีโลโก้ ROG เช่นกัน แต่เพิ่มเติมคือไฟ RGB ตามแบบฉบับของซีรีส์นี้ และสีดำเงาแบบเคลียร์ใส จนเห็นส่วนประกอบภายใน (นิด ๆ) เพิ่มความหล่อเท่ไปอีกแบบ

ขอบด้านบนก็มีช่องระบายความร้อนเช่นกัน
สำหรับไฟ RGB ก็มี 2 จุดตามภาพ โดยสามารถปรับแต่งเอฟเฟคเพิ่มเติมได้ผ่าน Armoury Crate ซึ่งรุ่นปี 2025 ก็มีดีไซน์ส่วนนี้ใหม่ให้มีไฟ RGB เด่นมากขึ้นพอควร ไม่ได้มาเป็นโลโก้ ROG เล็ก ๆ เหมือนก่อนแล้ว
สำหรับตัว ASUS ROG NUC (2025) มาแปลกหน่อยตรงที่ไม่สามารถวางแนวนอนได้แล้ว เนื่องจากส่วนที่เป็นฐานตั้งวางนั้น (โลโก้ Intel Ultra มาอยู่ตรงนี้เอง) มีการขันน็อตแน่นหนา ไม่ได้ถอดเข้าออกง่าย ๆ เหมือนรุ่นก่อนหน้า

ส่วนขนาดของ ROG NUC 2025 นั้น แม้ในฐานะ Mini PC จะไม่ได้เล็กมาก แต่ในฐานะ PC สำหรับเล่นเกมปรับภาพ Ultra แล้ว ถือว่าเล็กเกินพอ โดยเทียบขนาดกับโน้ตบุ๊กจอ 16 นิ้วแล้ว ก็ใหญ่กว่ากันเพียงนิดเดียวเท่านั้นเลย
พอร์ตเชื่อมต่อ

แม้จะได้ชื่อว่าเป็น Mini PC แต่ตัว ROG NUC (2025) ก็มาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลายมาก ๆ โดยพอร์ตด้านหลังก็ประกอบด้วยช่อง LAN : Intel® 2.5 Gb Ethernet กับมี 1 x Thunderbolt 4 Type-C w/ DisplayPortTM 2.1 , 4 x USB 3.2 Gen 2 Type-A , 2 x HDMI 2.1 FRL , 2 x DP 2.1 , 1 x RJ45 LAN , 1 x DC-in , 1 x Kensington Lock

ส่วนหน้าเครื่องคือ Front (Side) I/O Ports ก็มีทั้ง 2 x USB 3.2 Gen2 Type-A , 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C และ 1 x 3.5mm Combo Audio Jack คือเป็น Mini PC ที่แทบไม่ต้องใช้ USB HUB ต่อเพิ่มเลย
การอัปเกรด

สำหรับการอัปเกรดนั้น ก็สามารถเพิ่มหรือเปลี่ยนส่วนแรม DDR5 แบบ SO-DIMM ได้ โดยเพิ่มความจุได้มากถึง 96GB (ใส่ 48GB x 2) ถัดมาคือช่องใส่ SSD M.2 โดยจะมีใส่ตัว 2TB M.2 2280 NVMe Gen 4 ไว้แล้วหนึ่งตัว (มีใส่ Heatsink ให้ด้วย) แต่ก็มีช่อง M.2 เหลือว่างอีกหนึ่ง สามารถหา SSD M.2 มาใส่เพิ่มได้เลย

ส่วนการถอดฝาด้านข้างนั้น ก็สามารถขันน็อตด้านหลังด้วยมือได้เลย (ไขควงวางเป็นพร็อพเฉย ๆ..) จากนั้นก็ดันตัวฝาออกเบา ๆ เนื่องจากมีสายเชื่อมต่อไฟ RGB ติดอยู่ตามภาพ
Rate My ROG Setup



ASUS ROG NUC (2025) พร้อมอุปกรณ์เกมมิ่งครบเซ็ตโรงเรียน ROG ที่ประกอบไปด้วยเมาส์ ROG Keris II Origin , คียบอร์ด ROG Falcata , หูฟัง ROG Pelta และแผ่นรองเมาส์ ROG Scabbard II พอมารวมกันแล้ว ก็ช่วยให้ตัว ROG NUC (2025) ดูแพงขึ้นทันตา (: D) ส่วนแต่ละตัวจะมีจุดเด่นยังไงบ้าง ลองมาไล่ดูกันเลย
ROG Strix ACE XG248QSG

ประเดิมด้วย ROG Strix ACE XG248QSG จอเกมมิ่งขั้นสุดที่มาพร้อมพาแนลพิเศษอย่าง Super TN ให้อัตราการรีเฟรชสูงถึง 610Hz (ถ้าโอเวอร์คล็อก) เวลาตอบสนอง 0.1ms กับขนาด 24.1 นิ้ว ความละเอียด FHD (1920 x 1080) ซึ่งถึงจะเป็นจอ TN แต่ก็ Super ทั้งลื่นทั้งคมทีเดียว พิสูจน์ด้วยเกม Silent Hill f ที่แม้ไม่ใช่เกมรีเฟรชสูง แต่ก็มีภาพกราฟฟิกที่สวยงาม ตัวจอก็ถ่ายทอดได้คมไม่แพ้จอ IPS ดี ๆ เลย


ในส่วนดีไซน์ของจอ ROG Strix XG248QSG ก็มีความเฉียบคมตามสไตล์จอ ROG Strix แต่ไม่มีไฟ RGB ด้านหลังนะ ตัวจอก็สามารถปรับมุมก้มเงยได้อิสระ
ROG Falcata


ถัดมาคือ ROG Falcata คีย์บอร์ดเกมมิ่งขนาด 75% ที่สามารถแยกส่วนเป็น 2 ฝั่งได้ โดยยังมาพร้อมสวิตช์แม่เหล็ก ROG HFX V2 ให้สัมผัสการกดได้เป็นเอกลักษณ์ และปรับแต่งการสัมผัส (กดปุ่มติด) ได้ระหว่าง 0.1 – 3.5 มม. และการปรับแต่งขั้นตอนที่แม่นยำได้ถึง 0.01 มม. ทั้งยังมีเซ็นเซอร์ ROG Hall ช่วยให้การเชื่อมต่อไร้สายมีประสิทธิภาพขึ้น และลดสัญญาณรบกวนได้ดี ส่วนดีไซน์ตัวคีย์บอร์ด

หากแยกเป็น 2 ฝั่ง ก็ดูคล้ายกับอุปกรณ์เกมคอนโซลยังไงยังงั้นเลย จะแยกไม่แยกก็เราแต่ผู้ใช้เลย แต่เสียดายทีหากต้องการแยกคีย์บอร์ดออกนั้น ต้องเสียบสาย USB-C เชื่อมต่อทั้ง 2 ฝั่งด้วย หากถอดฝั่งหนึ่ง ตัวคีย์บอร์ดด้านขวาจะกดไม่ติดหรือดับไปเลย
ROG Keris II Origin


ROG Keris II Origin แรกคิดว่าเป็นรุ่นเก่าที่เคยรีวิวไป แต่ดูดี ๆ แล้วมันเป็นรุ่นภาคต่อ ที่เพิ่มส่วนไฟ RGB ด้านข้างด้วย กับมีน้ำหนักเพียง 65 กรัม พร้อมรูปทรงที่ผ่านการทดสอบจากผู้เล่น FPS มืออาชีพและยังออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ด้วยอีก

ตัวเมาส์ก็มีเซ็นเซอร์ออปติคัล ROG AimPoint Pro ที่ให้ความละเอียดถึง 42,000 dpi กับมีสวิตช์ ROG Micro Switches II และเทคโนโลยีไร้สาย ROG SpeedNova นอกจากนี้ Keris II Origin ยังรองรับ ROG Polling Rate Booster ซึ่งรองรับอัตราการสุ่มสัญญาณไร้สาย 8000Hz เพิ่มเติมด้วย

ROG Falcata คู่กับ ROG Keris II Origin และแผ่นรองเมาส์ ROG Scabbard II ของมันต้องมีจริง ๆ
ROG Pelta


ปิดท้ายด้วยหูฟัง ROG Pelta ที่มาโหมดเชื่อมต่อ 3 แบบ อาทิ SpeedNova , Bluetooth และ 2.4 GHz กับไดรเวอร์ไดอะแฟรมเคลือบไททาเนียม ROG ขนาด 50 มม. และมีน้ำหนักเบาเพียง 309 กรัม ลองใส่แล้วคือบางจริงจังเลย
ทดสอบประสิทธิภาพ


ในส่วนทดสอบประสิทธิภาพ รอบนี้ตัว ASUS ROG NUC (2025) ก็มาพร้อมสเปกที่ดุดันเอาการเลยอย่างซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5080 Laptop GPU เสริมด้วยแรม DDR4 6400 ขนาด 32GB SO-DIMM และ SSD M.2 2TB M.2 2280 NVMe PCIe® 4.0 โดยทั้งหมดจะช่วยขับประสิทธิภาพของ ASUS ROG NUC (2025) ได้แค่ไหน ลองมาดูกันครับ

ลองทดสอบความแรงซีพียูเบื้องต้นด้วย CPU-Z เทียบความแรงกับ Intel Core i9-14900K พบมีประสิทธิภาพพอ ๆ กันเลย แต่ Single Thread ของ Core Ultra 9 275 HX แรงน้อยกว่านิดหน่อย

ลองดูสเปกแรม DDR5 6400 ขนาด 32GB แบบละเอียด

วัดความเร็วอ่านเขียนของ SSD 2TB M.2 2280 NVMe PCIe® 4.0 ที่ติดตั้งมาในเครื่อง ก็ได้ความเร็วอ่านเกือบ 7,000 MB/s แล้ว ส่วนความเร็วเขียนก็อยู่ที่ 6,175 MB/s ก็ไม่น้อยเหมือนกัน

มาถึงส่วน 3D Mark แล้ว ก็ขอทดสอบประสิทธิภาพซีพียูต่อด้วย CPU Profile ของ 3D Mark ตัวซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX ก็ได้คะแนน Core/Thread สูงทีเดียว

ถัดมาคือ Solar Bay Extreme ทดสอบการประมวลผล Ray Tracing ของการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 5080 Laptop GPU ก็ได้คะแนนไปถึง 20,864 คะแนนแล้ว

ต่อไปลองวัดประสิทธิภาพกราฟิกขั้นสูงด้วย Steel Nomad ก็ได้คะแนนที่ 5,286

ทดสอบ Time Spy Extreme ช่วยประเมินความสามารถของฮาร์ดแวร์ว่ารันเกมหรือแอปฯ ได้ดีแค่ไหน ตัวเครื่องก็ทำคะแนนได้ถึง 10,879 คะแนนเลย

ท้ายนี้กับ Fire Strike Ultra ทดสอบประสิทธิภาพการ์ดจอแบบเน้น ๆ ก็รันภาพกราฟฟิกได้ลื่นไหลทีเดียว ส่วนคะแนนก็ได้ถึง 14,949 คะแนนเข้าไปแล้ว

ลองทดสอบ Blender Benchmark ก็ได้ผลการทำคามตามภาพ


ต่อด้วย Geekbench 6 คะแนนฝั่ง RTX 5080 Laptop GPU ก็ได้ไป 210,569 คะแนน ส่วนซีพียู Ultra 9 275HX ก็ได้คะแนน Single Core ที่ 2943 คะแนน กับ Muti-Core ที่ 18,596 คะแนน คะแนนพอ ๆ กับ i9-14900K เลย
Gaming Test


เปิดเกมแรกอย่าง Cyberpunk 2077 ลองปรับภาพ Full HD กับ Ultra และเปิด Ray Tracing ปรับสุด พร้อม DLSS FG ไปด้วย ก็ได้เฟรมเรตสูงถึง 130 fps กันเลย


ต่อไปลองเปิด Path Tracing ขั้นกว่าของ Ray Tracing นอกนั้นก็เหมือน Setting ก่อนหน้า ก็ได้ดฟรมเรตที่ราว ๆ 80 – 90 fps ก็ยังลื่นอยู่ดี


อีกเกมอย่าง Monster Hunter Wilds (Benchmark) ก็ได้เฟรตเฉลี่ยถึง 172 fps ลื่นหัวแตกเลย โดยปรับภาพสุด Ultra ทุกอย่าง กับเปิด DLSS

ปิดท้ายด้วยเกมกระแสนิยมอย่าง Silent Hill f โดยเกมนี้มีเฟรมเรตได้ไม่เกิน 60fps ตัว ASUS ROG NUC (2025) ก็ดันได้ 60fps ตลอดไม่มีตกเลย แม้ปรับภาพสุดทุกอย่างก็ตาม
สรุป

นับเป็นการสานต่อ ROG NUC ที่สมศักดิ์ศรีโดยแท้ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนแล้ว ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทีเดียว โดยเฉพาะดีไซน์ที่ยังคงเล็กกะทัดรัด แต่ก็มีขนาดใหญ่ขึ้นและหนักขึ้น โดยแลกกับสเปกที่ยกระดับกว่าเดิมอย่าง Intel Core Ultra 9 275HX กับ RTX 5080 Laptop GPU พร้อมกับปรับปรุงให้หน้าตาโดยรวมดูมีความเป็น Sci-Fi มากกว่าเดิม ส่วนไฟ RGB ก็มีความเด่นมากกว่าเดิมด้วย เช่นกัน
ตัวเครื่องคือ Mini PC สเปกแรงขั้นสุด ในขนาดที่เล็กยิ่งกว่าเครื่องเล่นเกมคอนโซลบางตัว ทำให้ตัวเครื่องเหมาะสำหรับใช้งานนอกสถานที่ เพราะเคลื่อนย้ายง่ายมาก เอาไปทำเป็นเครื่อง Live stream หรือลุยงาน Workstation ก็ยังได้ หากใช้งานที่บ้าน ก็ได้การประหยัดพื้นที่อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ตัวเครื่องก็มาพร้อมการ์ดจอ RTX 5080 Laptop GPU คือเป็นการ์ดจอสำหรับใช้ในโน้ตบุ๊กเกมมิ่งนี้เอง ฉะนั้นความแรงจะไม่เท่ากับ RTX 5080 ที่ใช้ในเครื่อง Desktop PC แน่นอน เห็นได้จากผลเทสประสิทธิภาพ แต่ใด ๆ ก็ตาม สเปกตัวเครื่องโดยรวมก็ยังจัดว่าสูง เชื่อว่าสูงกว่าคอมฯ ของใครหลาย ๆ คนแน่
ท้ายนี้ตัว ASUS ROG NUC (2025) จะมีจำหน่าย 2 รุ่น โดยแตกต่างกันที่รุ่นของการ์ดจอตามนี้ (ราคาอาจเปลี่ยนแปลง)
- ASUS ROG NUC (2025) รุ่น RTX 5070TI ราคา 93,900 บาท
- ASUS ROG NUC (2025) รุ่น RTX 5080 ราคา 99,990 บาท
ราคาจัดว่าสูงเอาเรื่องสุด ๆ แต่ก็เหมาะสำหรับใครที่ชอบความแรงในร่างเล็กนี้แบบนี้จริง ๆ ส่วนราคาเซ็ต ROG เกมมิ่งเกียร์รุ่นใหม่ในรีวิว ก็มีราคาตามนี้เลย
- ROG Falcata ราคา 5,XXX บาท
- ROG Pelta ราคา 3,990 บาท
- ROG Keris II Origin ราคา 4,290 บาท
- ROG Scabbard II ราคา 1,590 บาท
- ROG Strix ACE XG248QSG ราคา 32,900 บาท





















