กลับมาอีกครั้งกับ MateBook โน้ตบุ๊กตัว Top จาก HUAWEI รอบนี้ยังคงคอนเซ็ปต์บางเบาหรูหราเหมือนเคย แต่ปรับปรุงประสิทธิภาพภายในใหม่ยกเครื่อง โดยมาพร้อมซีพียูให้เลือกระหว่าง Intel Core i5 และ Core i7 (มี Intel Evo) จุดน่าสนใจคือเป็นซีพียู Intel รหัส H-Series กันเลย ซึ่งเป็นซีพียูประสิทธิภาพ ที่ปกติใช้ในโน้ตบุ๊กเกมมิ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้มาอยู่ใน Ultrabook แทนแล้ว

ฉะนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊กบางเบาประสิทธิภาพสูง ลองมาดูรีวิว HUAWEI MateBook 14s ภาคต่อที่รอคอย ซึ่งนอกจากสเปกที่แรงกว่าเก่ามากแล้ว ก็ยังมีฟีเจอร์ที่สมกับเป็นรุ่น Top อย่าง จอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว ความละเอียดสูง สีตรงได้ใจ กับมี ระบบระบายความร้อนแจ่ม วัสดุจับแล้วแพง แบตฯ อึด พอร์ตเยอะ และกล้อง Webcam แบบใหม่ ทั้งหมดทั้งมวลเป็นอย่างไร ลองมาดูรีวิวนี้กันได้ครับ

รายละเอียดสเปก HUAWEI MateBook 14s

หน้าจอ : LTPS ขนาด 14.2 นิ้ว IPS ความละเอียด 2.5 K (2520 x 1680) สัดส่วน 3 : 2 ความสว่างสูงสุด 400 nits ค่าสี sRGB 100% รองรับการสัมผัสแบบมัลติทัช 10 จุด พร้อมรองรับ Refresh Rate ที่ 90 Hz
ซีพียู : Intel Core i5-11300H
การ์ดจอ : Intel Iris Xe
แรม : 8GB LPDDR4
SSD : 512GB NVMe PCIe
แบตฯ : 42 WHr
เชื่อมต่อไร้สาย : Intel Wi-Fi 6 + Bluetooth 5.1
พอร์ตเชื่อมต่อ : USB-A 3.2 Gen1 x 1 , USB-C x 2 , USB-C x 1 (รองรับการเชื่อมต่อข้อมูล, ชาร์จไฟ และ DisplayPort) (สำหรับต่อไปเลี้ยง) HDMI x 1 และช่องเสียบหูฟังและไมโครโฟน 3.5 มม. x 1
OS : Windows 10 Home 64-bit
แบตฯ : ความจุ 60 Wh
ขนาด : 313.82 x 229.76 x 16.7 มม.
น้ำหนัก : 1.43 กิโลกรัม

แกะกล่อง

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า อุปกรณ์ที่จะมีแถมกล่องตอนขายจริง ๆ จะมี อะแดปเตอร์ HUAWEI SuperCharge 65W (ในภาพเป็น 90W) กับมีสายชาร์จ USB-C  to USB-C x 1 คู่มือเริ่มต้นใช้งานกับใบรับประกัน และตัวเครื่อง HUAWEI MateBook 14s ส่วนตัวแผ่นซีลีโคนคีย์บอร์ดภาษาไทย ไม่มั่นใจว่าจะแถมมาด้วยไหม หรือมาเป็นคีย์บอร์ดภาษาไทยติดกับตัวเครื่องอยู่แล้ว

งานออกแบบ

หน้าตาโดยรวมแทบไม่ต่างจากเดิมมาก โดยตัว HUAWEI MateBook 14s ก็ยังเป็น Ultrabook หรือโน้ตบุ๊กบางเบาระดับพรี่เมี่ยมรุ่นหนึ่ง วัสดุเป็นอลูมิเนียมทั้งตัว แข็งแรงทนทาน ส่วนสีที่ได้รีวิวคือ Space Gray สีเทา ในรุ่น Core i5 จะมีอีกสีคือ Spruce Green สีเขียว

ตัวเครื่องมีความบางเพียง 16.7 มม. และน้ำหนักอยู่ที่ 1.43 กก.  

เทียบความบางกับปากกาเขียนบอร์ด

ถ้าถามว่าน้ำหนัก 1.43 กก. ถือว่าหนักไหม เอาจริง ๆ ส่วนนี้รู้สึกว่าแล้วแต่คนจริง ๆ จากที่ได้ลองถือและใส่กระเป๋าแบกกลับบ้าน ก็รู้ว่ามันหนักนิด ๆ หากหนักเพียง 1 กก. หรือไม่เกิน 1 กก. ไปเลย ถึงจะรู้สึกว่าเบา จุดนี้ก็เข้าใจว่าเป็นเพราะตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมทั้งตัวเลยนั้นเอง อาจมีน้ำหนักไปบ้าง แต่ก็รับรองได้เครื่องไม่บอบบางแน่นอน

พอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้แบบพอดี ๆ อาทิ USB-A 3.2 Gen1 x 1 , USB-C x 2 , USB-C x 1 (รองรับการเชื่อมต่อข้อมูล, ชาร์จไฟ และ DisplayPort) (สำหรับต่อไปเลี้ยง) HDMI x 1 และช่องเสียบหูฟังและไมโครโฟน 3.5 มม. x 1

จากภาพเหมือนเห็นลำโพง 2 ตัว แต่จากในรายละเอียดสเปกระบุว่ามีถึง 4 ตัว ประกอบด้วยลำโพงเสียงต่ำ 2 ตัวถ่ายทอดความถี่ได้ถึง 15 KHz และลำโพงเสียงสูงอีก 2 ตัวถ่ายทอดเสียงแหลมใสกังวาน ช่วยเพิ่มความชัดเจน และรายละเอียดของเสียงไปอีกระดับ อีกทั้งยังมี Personal Voice Enhancement เทคโนโลยีไมโครโฟนซึ่งมี 4 ตัวอีกเช่นกัน สามารถรับเสียงได้รอบทิศทางแบบ 360 องศา และจับเสียงได้ระยะไกลถึง 5 เมตร กับมี AI ช่วยตัดเสียงรบกวนให้ด้วย

และนี่คือ HUAWEI MateBook 14s

ข้อดีของโน้ตบุ๊กระดับพรี่เมี่ยมเลยคือ จอแสดงผลจะมีคุณภาพมากเป็นพิเศษ ตัว HUAWEI MateBook 14s ก็เช่นกัน โดยเป็นจอ HUAWEI FullView Display  ขนาด 14.2 นิ้ว มีความละเอียดมากถึง 2.5K  (2520 x 1680) และสัดส่วน 3:2 ที่เหมาะแก่การท่อง Facebook หรืออ่านบทความบนเว็บมาก ๆ เสริมด้วยความสว่างสูงสุด 400 nits ใช้ในที่แจ้งได้ดี ทั้งรองรับสีแบบ 100% sRGB color gamut ด้วย ให้สีสันสวยตรง

ส่วนกล้อง Webcam รอบนี้เป็นแบบฝั่งบนขอบจอแล้ว ไม่ใช่แบบซ่อนใต้ปุ่มคียบอร์ดเหมือนก่อน เท่านี้กับปรับองศากล้องได้เสียที แต่แอบเสียดายที่ยังเป็นกล้อง 720p อยู่

ปุ่ม Power มาพร้อมที่สแกนลายนิ้วติดมากับปุ่มเลย สำหรับคีย์บอร์ด ส่วนนี้ทาง HUAWEI ระบุว่าเป็นคีย์บอร์ดออกแบบใหม่ มีความลึกของปุ่มที่ 5 มม. ปุ่มเป็นโดมยางและภายในปุ่มเป็นแบบกรรไกร ซึ่งเป็นกลไกที่ชะลอการกระแทกแป้นคีย์บอร์ดให้ใช้งานได้ทนทาน และให้สัมผัสนุ่มนวลระหว่างพิมพ์ ซึ่งก็ให้สัมผัสการพิมพ์ได้ดีจริง ตัว Touch Pad เองก็เช่นกัน

อนึ่งตัว HUAWEI MateBook 14s ที่ได้รีวิวเป็นคียบอร์ด Eng เลยมีตัวแผ่นซีลีโคนคียบอร์ด TH มาให้ ซึ่งหน้าตาก็ตามนี้เลย

มีไฟ LED Backlight บนคียบอร์ด แต่ถ้าไม่มืดจริง ๆ จะแทบไม่เห็นเลย

ฟีเจอร์การใช้งาน

มาถึงส่วนที่เรียกได้ว่าเป็น ‘จุดเด่นเฉพาะตัว’ ของ HUAWEI MateBook ทุกรุ่น และในรุ่น HUAWEI MateBook 14s ก็มีความพิเศษตรงที่ มาพร้อม HUAWEI Mobile App Engine สามารถใช้งานแอปฯ Android บนตัวเครื่องได้เลย นอกนั้นก็มี HUAWEI Share กับโปรแกรมสารพัดประโชยน์อย่าง HUAWEI PC Manager ซึ่งแต่ละตัวจะใช้งานยังไงบ้าง ลองมาดูกัน

เกือบลืมบอกไป HUAWEI MateBook 14s มาพร้อมจอสัมผัสแบบ Multi-touch 10 จุด และรองรับ Refresh Rate สูงสุด 90 Hz ทำให้การใช้งานมีความลื่นไหลเป็นพิเศษ ซึ่งส่วนนี้ก็สามารถนำมาใช้กับ HUAWEI Mobile App Engine ได้ดีเช่นกัน

การใช้งาน HUAWEI Share และ Multi-screen Collaboration หากใครอยากรู้การใช้งานแบบชัด ๆ ลองย้อนไปดูในรีวิว HUAWEI MateBook D15 (2021) ได้เลย

กลับมาอีกครั้งกับโปรแกรม HUAWEI PC Manager ที่มีในโน้ตบุ๊ก MateBook ทุกรุ่น ตัวโปรแกรมก็ยังใช้งานได้หลากหลาย อาทิ ช่วยจัดการอัปเดต Drive  เช็คสถานะกับเช็คการรับประกันตัวเครื่อง และช่วยให้เข้าถึงฟีเจอร์ Multi-screen ได้สะดวก

สำหรับตัว HUAWEI Mobile App Engine ตอนที่รีวิวยังเป็นรุ่นทดลองใช้งาน (Beta) อยู่ ซึ่งการใช้งานนั้น ก็จะอิงจาก AppGallery ของทาง HUAWEI เองเลย ในที่นี้ได้ลองใช้งานไป 2 แอปฯ อาทิ Tiktok กับเกม Free Fire

ลองใช้งาน Tiktok บนตัวเครื่อง HUAWEI MateBook 14s

ลองเล่น Free Fire

ส่วนนี้ตัวแอปฯ หรือใน Engine สามารถปรับแต่งการควบคุมจากคียบอร์ดหรืออุปกรณ์ภายนอกได้ตามนี้เลย

ประสิทธิภาพ

และแล้วก็มาถึงหัวข้อทดสอบประสิทธิภาพของตัว HUAWEI MateBook 14s ตามสเปกเลยคือ Intel Core i5-11300H กับแรม 8GB LPDDR4 และ SSD แบบ NVMe ขนาด 512GB (หากใครเลือก MateBook 14s รุ่น i7-11370H จะได้การรับรองมาตรฐาน Intel Evo ด้วย) ในการทดสอบจะเปิด Performance Mode เพื่อดูเลยว่า สามารถขับประสิทธิภาพได้ถึงขนาดไหน

รายละเอียดตัวชิป Intel Core i5-11300H ใน HUAWEI MateBook 14s

Windows 10 Home 64-bit

ผลเทสจาก Cinebench R20 ได้ไป 2267 คะแนน

PC Mark 10 ได้ 4848 คะแนน

ไหน ๆ ก็เป็นซีพียู H-Series แล้ว ลองจับเทส Fire Strike กับ Time Spy ซะเลย ซึ่งคะแนนก็ได้ตามนี้ Fire Strike 4085 คะแนน Time Spy 1548 คะแนน

วัดความเร็วอ่านเขียน ผลคือได้ความเร็วอ่านที่ 3384 MB/s กับความเร็วเขียน 2983 MB/s

สุดท้ายลองวัดระยะเวลาการใช้งานแบตฯ ของตัวเครื่อง ผลคือได้เวลาสูงถึง 9 ชั่วโมง อนึ่งตอนทดสอบ เครื่องยังอยู่ในสถานะ Performance Mode อยู่ หากเป็นโหมด Balance อาจอยู่ในนานกว่านี้แน่ ซึ่งจุดนี้ทาง HUAWEI ก็บอกด้วยว่า สามารถดูวิดีโอ Full HD ได้นานติดต่อกันถึง 13 ชั่วโมงกันเลย

Gaming Test

ในส่วนทดสอบการเล่นเกมนี้ จะขอพูดเรื่องตัวเครื่อง 3 ส่วนกันเลย ส่วนแรกคือ ประสิทธิภาพการเล่นเกม Genshin Impact ด้วยตัวซีพียู Intel Core i5-11300H ก็มาพร้อมการ์ดจอออนบอร์ดคุณภาพอย่าง Intel Iris Xe กับแรม 8GB LPDDR4

ด่านแรกลองทดสอบความละเอียด 2.5 K แบบเต็มจอ พร้อมปรับภาพทุกอย่างสุดหมดเลย ผลคือ ยังมีความกระตุก ซึ่งไม่น่าแปลกใจ เกมนี้ถือว่ากินสเปกพอประมาณเลย ปกติต้องมีการ์ดจอแยกระดับกลางเลย ถึงจะเล่นได้ดี ต่อไปลองปรับภาพทุกต่ำหมด แต่ยังคงความละเอียด 2.5K ไว้ ผลคือเล่นได้ลื่น แอบมีกระตุกบ้างเล็กน้อย และสุดท้ายคือปรับภาพเป็น Full HD พร้อมกลับมาปรับภาพทุกอย่างสุดหมด สรุปปรับแบบนี้คือดีที่สุด เล่นได้ลื่นสุดแล้ว

ส่วนถัดมาคือเรื่องของประสิทธิภาพลำโพง ในคลิปเปิดระดับเสียบเพียง 60% แต่ก็ดังกระหึ่มใช้ได้เลย สมกับที่มีลำโพงถึง 4 ตัว ถ้าเปิดลำโพงจนสุด เกรงว่าเพื่อนบ้านคงมาเคาะประตูแน่นอน

ส่วนสุดท้ายคือเรื่องการระบายความร้อน สำหรับตรงนี้ทาง HUAWEI ได้ระบุด้วยว่า มีการยกระดับระบบระบายความร้อนให้รองรับการทำงาน Performance Mode ได้อย่างดีเยี่ยมด้วยพัดลม HUAWEI SharkFin รูปตัว S บางแบบครีบฉลามคู่ (พัดลมคู่ !!) ดึงอากาศเข้าสู่ตัวเครื่องดีขึ้น 25% เชื่อมกับแผงระบายความร้อนทองแดง พร้อมช่องระบายอากาศเพิ่มเติมบริเวณบานพับ ฉะนั้นหายห่วงเรื่องความร้อนได้เลย ความร้อนเฉลี่ยอยู่แค่ 65 – 70 องศาเท่านั้น !!

สรุป