รีวิว : Xiaomi 12 พรีเมียมทั้งสเปกและดีไซน์ จบครบในตัว

เวลาจะซื้อสมาร์ทโฟน หลายคนคงดูที่กล้อง บ้างก็หน่วยประมวลผลที่ใช้ หรือไม่คิดอะไรมากเห็นเครั้งแรกก็ซื้อเลย หลาย ๆ ปัจจัยในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟน ก็ส่งผลให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต้องชวนหัวอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็สามารถพัฒนาสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์คนกลุ่มมากได้ และสมาร์ทโฟนที่กำลังรีวิวนี้ก็อยู่ในข่ายนี้เอง

รีวิวนี้พบกับ Xiaomi 12 สมาร์ทโฟนที่รวมเอาข้อดีที่ควรมี มาใส่ไว้ในเครื่องเดียว ครบเครื่อง ไม่ต้องคิดเยอะ โดยตัวเครื่องก็มีดีทั้งหน้าจอ วัสดุกับดีไซน์ กล้อง และหน่วยประมวลผล ที่จัดเต็มได้สมฐานะเรือธง แต่ก็ยังมีราคาไม่เกินเอื้อมจนเกินไป สำหรับตัว Xiaomi 12 นับเป็นรุ่นรอง Top จากตัว Xiaomi 12 Pro ซึ่งลดในส่วนหน้าจอลง ตัดกล้องซูมออกไป ส่วนนอกนั้นแทบไม่ต่างกันเลย มาดูกันว่าตัว Xiaomi 12 มีดีอะไรบ้าง และตอบโจทย์ได้ขนาดไหนกันครับ

รายละเอียดสเปก Xiaomi 12 (ดูรายละเอียดได้ที่นี่)

หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.28 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080)  รองรับ 120Hz กับ HDR10+ ช่วงสี DCI-P3 คะแนน DisplayMate A+ มีค่าความสว่างสูงสุด 1100 nits และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus
หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 (4 nm)
ชิปกราฟิก : Adreno 730
แรม : 8GB LPDDR5
รอม :  128GB/256GB แบบ UFS 3.1
กล้องหลัง : เลนส์ Wide 50 ล้านพิกเซล [F/1.9]  + เลนส์ Ultrawide (มุมกว้าง 123 องศา) 13 ล้านพิกเซล [F/2.4] + เลนส์ Telephoto Macro 5 ล้านพิกเซล [F/2.4] รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K@24fps (HDR) และ 4K@30/60fps
กล้องหน้า : 32MP [F/2.5]
แบตฯ : 4500 mAh รองรับชาร์จไว 67W
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2 , Wi-Fi 6 / Wi-Fi 6E
ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย MIUI 13
ขนาดตัวเครื่อง : 152.7 x 69.9 x 8.2 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 179 กรัม
สีให้เลือก : Gray , Blue , Purple , Green

แกะกล่อง

อุปกรณ์ในกล่องประกอบกเวย Xiaomi 12 , อะแดปเตอร์ 67W , สาย USB Type-C , เข็มเปิดถาดซิม , เคสป้องกันแบบใส และคู่มือการใช้งานเบื้องต้นกับใบรับประกัน

งานดีไซน์

สารภาพเลยว่า ตอนเห็น Xiaomi 12 Series เปิดตัวครั้งแรก แอบรู้ว่าดีไซน์มันดูธรรมดาไปนิด หลังได้มาลองสัมผัสจริง ๆ … แต่ยังคิดเหมือนเดิม (ฮ่า) แต่ในความธรรมดาของมัน กลับแฝงความพรี่เมี่ยมเอาไว้ อันดับแรกเลย วัสดุตัวเครื่องที่ใช้เป็นอลูมิเนียมทั้งตัว และเป็นอลูมิเนียมแบบผิวด้าน กันรอยนิ้วมือได้ดีนักแล ผิวสัมผัสก็ดี จับแล้วไม่ลื่นมือง่าย ๆ งานประกอบแน่นหนา แทบไม่เห็นรอบประกบ (หรืออาจไม่มีเลย) โดยรวมพูดได้ว่า สมแล้วที่เป็นเรือธง หน้าตาธรรมดา แต่ภายในอย่างเข้ม

อนึ่งตัว Xiaomi 12  มีขนาดจอเพียง 6.28 นิ้ว ซึ่งถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนถือว่ามีขนาดค่อนข้างเล็ก อาจไม่เหมาะกับสายดูหนังผ่านสมาร์ทโฟน แต่ก็แลกกับความคล่องตัวแทน คือถือจับถนัดมือมาก ๆ น้ำหนักก็เบา ยัดใส่กระเป๋ากางเกงได้สบาย ๆ

Xiaomi 12 รุ่น Purple หรือสีม่วงอ่อน สีออกไปทางชมพูนิด ๆ

กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

ตอนใส่เคสป้องกันแบบใสที่แถมมา

ฟีเจอร์เด่น

จั๋วหัวมาว่า Xiaomi 12 นั้น “จบครบในตัว” คือต้องบอกเลยว่าตัว Xiaomi 12 ไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรให้ว้าวเป็นพิเศษ แต่ก็รวมเอาข้อดีที่ควรมี มาใส่ไว้ในเครื่องเดียวแล้ว ซึ่งจะครบเครื่องยังไงนั้นเดี๋ยวลองมาดูกัน ประเดิมด้วยลำโพง 4 ตัว ที่ประกอบด้วยลำโพงทวีตเตอร์ x 2 และลำโพงวูฟเฟอร์ x 2 ขับเคลื่อนโดย Dolby Atmos และดีไซน์โดย Harmon Kardon มีโลโก้ประดับอย่างสวยงาม

แล้วคุณภาพเสียงเป็นอย่างไร จากที่ลองฟังก็ถือว่าให้รายละเอียดเสียงได้ดีเลย ฟังเพลงก็สนุก แต่ยังไม่ถึงขั้นดังกระหึ่ม จนแทนลำโพงพกพาได้

สำหรับหน้าจอของ Xiaomi 12 ก็มีขนาดที่ 6.28 นิ้วเท่านั้น แต่สเปกถือว่าสูงสมฐานะอยู่ โดยมีความจออยู่ที่ FHD+ (2400 x 1080) 419 ppi และจุดสังเกตคือมีสัดส่วน 20 : 9 ซึ่งทำให้แสดงผลแนวนอนได้เด่นเป็นพิเศษ กับให้สีสันได้สวยสดพอควร ซึ่งตัวจอก็มีช่วงสี DCI-P3 พร้อมกับคะแนนจากทาง DisplayMate อยู่ที่ A+กันเลย ทั้งนี้ยังรองรับ Refresh Rate ที่ 120Hz กับ HDR10+ กับค่าความสว่างสูงสุด 1100 nits และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus

ในส่วน Refresh Rate หากคิดว่า 120Hz กินแบตฯ ไป ก็ปรับเป็น 60Hz ได้ ส่วนสีสันหรือการแสดงผลของจอ หากชอบสีสันแบบธรรมชาติมากกว่า ก็สามารถปรับแต่งเองได้เช่นกัน

เพิ่มพิเศษอีกอย่างคือ สามารถใช้ AI ช่วยปรับการแสดงผลทั้งวิดีโอหรือรูปภาพเพิ่มเติมได้ ซึ่งตัว Xiaomi 12 ก็มีโหมดนี้ให้เลือกใช้ถึง 4 แบบ (บางรุ่นมีแค่ 2 แบบ) จะเลือกเปิดใช้ทั้งหมดเลยก็ได้

ระบบสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งตัว Xiaomi 12 มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนฝั่งใต้หน้าจอมาเลย ซึ่งก็ทำงานได้รวดเร็วทีเดียว

ต่อไปลองดูคุณสมบัติเด่น ๆ ของ MIUI 13 ในตัว Xiaomi 12 กัน ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีหลายฟีเจอร์เลยที่คาดไม่ถึงว่าจะมี โดยจะมีฟีเจอร์อะไรให้ว้าวบ้าง ลองมาดูกัน

เริ่มจากหน้า Home Screen ของตัว MIUI 13 ในตัว Xiaomi 12 กันก่อน ในที่นี้ก็ปรับแบบหน้าแอปฯ ทั้งหมด มาแสดงในหน้า Screen ทั้งหมด ส่วนแถบ Notification ก็มี 2 แบบ ฝั่งซ้ายเป็นหน้าแจ้งเตือนต่าง ๆ ฝั่งขวาเป็นหน้าเครื่องมือลัดเช่น เปิด/ปิด Wi-Fi หรือ 4G/5G และโหมดต่าง ๆ

ฟีเจอร์หรือแอปฯ ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวเครื่อง ข้อดีคือใช้งานง่าย กดครั้งเดียวก็ช่วยทำให้ตัวเครื่องทำงานดีขึ้น ทั้งล้างแคช เคลียร์แรม พร้อมสแกนเครื่องให้ทันที ส่วนข้อสังเกตคือมี ‘โฆษณา’ ทั้งที่เป็นแอปฯ ติดเครื่องแท้ ๆ แต่กลับมีซะได้

ระบบ SOS หรือตั้งค่าปุ่มฉุกเฉิน โดยสามารถตั้งให้ปุ่มเปิดปิดเครื่อง สามารถกด 5 ครั้งติด เพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉินได้ (ฝั่ง iOS นั่งลงก่อนครับ) ด้วยการสั่งตำแหน่งกับส่ง SMS ไปยังผู้ติดต่อที่เราตั้งค่าไว้ นอกจากนี้ยังมีตั้งค่าการแจ้งเตือนฉุกเฉินอื่น ๆ ด้วย

ฟีเจอร์ ‘คุณลักษณะพิเศษ’ ที่รวมเอาฟีเจอร์พิเศษตามชื่อ มาไว้ในที่เดียวเลย ซึ่งก็มีทั้ง ‘แถบด้านข้าง’ ตั้งค่าวิดเจ็ตหรือแอปฯ ที่ต้องการให้เปิดใช้งานง่าย ๆ ‘ผู้ช่วยกล้องหน้า’ เปิดใช้โหมดหน้าใสหรือ “ฟรุ้งฟริ้ง” พร้อมเปิดไฟ LED จากกล้องหน้า ‘หน้าต่างลอย’ เรียกใช้งานพร้อมกัน 2 แอปฯ โดยให้อีกแอปฯ แสดงผลเป็นหน้าต่างเล็ก ๆ เหมือนใน PC ‘พื้นที่ทับซ้อน’ ใครซีเรียสเรื่องความปลอดภัยลองดูเลย ‘โหมดง่าย’ ตามชื่อ ทำให้ UI กับไอคอนต่าง ๆ มีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยให้ใช้งานจอสัมผัสได้ง่ายขึ้น

สุดท้ายคือระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ตัวสามารถใช้ตัวสแกนลายนิ้วมือใต้จอของ Xiaomi 12 ทำการวัดได้เลย

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ชอบเป็นพิเศษใน MIUI 13 หรือ Xiaomi 12 เลยคือ ‘Game Turbo’ ฟีเจอร์ช่วยปรับแต่งการเล่นเกมให้สนุกและมีประสิทธิภาพ โดยภายในฟีเจอร์ก็มีให้เลือกตั้งค่าทั้ง ปุ่มลัด ปิดการแจ้งเตือน เคลียร์แคชแรม (เพื่อความลื่น) และปรับแต่งการแสดงผลของเกม

เทียบตั้งค่าการแสดงผลเกมระหว่าง ‘ปกติ’ กับ ‘สว่างและอิ่มสี’

เรียกใช้ฟีเจอร์ ‘หน้าต่างลอย’ จากในนี้ก็ได้ ทำให้เปิดแอปฯ อื่นพร้อม ๆ กับเล่นเกมได้

ปิดท้ายด้วยฟีเจอร์ ที่ไม่รู้ว่าเรียกเป็นฟีเจอร์ลับได้ไหมอย่าง ‘โปรแกรมเปลี่ยนเสียง’ สำหรับใครที่อยากแคชเกมไปด้วย ตัวฟีเจอร์ช่วยเปลี่ยงเสียงให้ได้ทันที

ตัวอย่างการใช้งาน…เสียงผู้หญิงยังไม่เนียนเท่าไร ส่วนเสียงผู้ชายคืออย่างเข้มเลย (ฮ่า)

ประสิทธิภาพ

ขุมพลังหลักของ Xiaomi 12 คือ Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ชิปประมวลผลขนาด 4 nm ที่ ณ ตอนนี้คือ Top สุดของสมาร์ทโฟนฝั่ง Android แล้ว นอกนั้นก็มีชิปกราฟิก Adreno 730 กับแรมขนาด 8GB แบบ LPDDR5 ลองมาดูกันว่าตัวเครื่องจะมีประสิทธิภาพขนาดไหนกัน

ลองเทสด้วยแอปฯ Geekbench 5 ก็ได้คะแนนตามนี้เลย จัดว่าสูงสมกับสเปก คะแนนนำสมาร์ทโฟนเรือธงชื่อดังรุ่นก่อนและสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Snapdragon 870 ไปพอควร

ต่อไปลองเกม Genshin Impact ตามสมัยนิยม แน่นอนว่าปรับสุดทุกอย่าง ผลคือได้ลื่น ๆ ไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวชิป Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 จะมีคุณภาพสูง ขณะเดียวกันก็มีความร้อนสูงด้วยเหมือนกัน ซึ่งแม้ตัว Xiaomi 12 จะชูโรงเลยว่า ใช้บอร์ด VC LiquidCool กับวัสดุ VC LiquidCool มาช่วยระบายความร้อน แต่ก็ยังมีฟ้องเครื่อง ‘ร้อนเกิน’ ให้เห็น หากมีการใช้งานหนัก ๆ เป็นเวลานาน

กล้องหลัก

สำหรับรีวิว Xiaomi 12 ในส่วนกล้องหลังนั้น ขอใช้คอนเซ็ปต์ “เจออะไรกดถ่าย” ถ่ายรูปแบบรวดเร็ว โดยไม่ปรับแต่ง ไม่ต้องคิดอะไรมาก เนื่องจากเห็นว่าตัวเครื่องใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 1 ที่อาจช่วยให้ประมวลผลภาพได้ไวขึ้น และยังมี 3 กล้องในตัวแบ่งเป็น

เลนส์ Wide หรือกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล [F/1.9] ในระยะ 26mm ขนาดเลนส์ 1/1.56″ ขนาดพิกเซล 1.0µm และมีกันสั้น OIS เหมาะสำหรับยกถ่ายไว ๆ อีก 2 กล้องก็มี เลนส์ Ultrawide (มุมกว้าง 123 องศา) 13 ล้านพิกเซล [F/2.4] + เลนส์ Telephoto Macro 5 ล้านพิกเซล [F/2.4] รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K@24fps (HDR) และ 4K@30/60fps

เทียบภาพจาก 3 เลนส์ โดยมีภาพจากเลนส์ Wide ที่เป็นกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล (ภาพใหญ่) และภาพจากเลนส์ Telephoto Macro (ซ้าย) กับเลนส์ Ultrawide (ขวา) จะเห็นเลยว่าภาพจากเลนส์ Wide กล้องหลัก สามารถเก็บรายละเอียดภาพถ่ายได้ดีเป็นพิเศษ

ตัวอย่างภาพถ่าย

เนื่องจากเห็นว่าใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX707 ที่ช่วยเพิ่มทั้งความคมชัด ความเร็ว และความสว่างจากภาพแสงน้อย ในที่นี้เลยขอเน้นภาพถ่ายตอนกลางคืนเป็นหลัก กับคอนเซ็ปต์ “เจออะไรกดถ่าย” ตามนี้

โดยรวมก็บอกได้เลยว่า “ถ่ายสนุกมาก” กล้องถ่ายได้ไว ถ่ายง่าย และถ่ายที่มืดได้ดีงามมาก

สรุป

Shops
แชร์ :
review
  • วัสดุ / การออกแบบ
    (4.5)
  • สเปค / ฟีเจอร์
    (4.5)
  • ราคา / ความคุ้มค่า
    (5)
4.7

Summary

ในตอนเปิดตัว Xiaomi 12 Series สิ่งแรกที่หลายคนจับจ้องก่อนเลยคือ ‘ราคา’ กับ ‘โปรโมชั่น’ ซึ่งที่ผ่านมาทาง Xiaomi ก็คุมความคุ้มค่ามาได้ตลอด มาครั้งนี้มีขยับขึ้นมาอีกหน่อย แต่ก็แลกกับประสิทธิภาพที่มากขึ้น คุ้มค่ามากกว่าเดิม Xiaomi 12 เปิดราคาเริ่มต้นที่เพียง 24,990 บาท ในราคานี้เราได้ทั้งจอ OLED ขนาด 6.28 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และรองรับ 120Hz พร้อม Gorilla Glass Victus หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ตัวแรงสุด ณ ตอนนี้ กล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX707 ถ่าย 8K ได้ กับกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล สเปกระดับนี้ถ้ามีราคา 3 หมื่นบาทจะไม่แปลกใจเลย

การใช้งานโดยรวม อาจบอกได้ว่า ‘ไม่ต้องคิดเยอะ’ เกมก็ลื่น กล้องก็ชัด หน้าจอก็คม ใช้งานลื่นไหล คือเป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องมาก อีกทั้งตัว Xiaomi 12 มีขนาดไม่ใหญ่มาก ทำให้ถือจับคล่องมือเป็นพิเศษ ถ้าจะติดก็คงเป็นเรื่องที่ตัวเครื่องไม่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น กับมีความร้อนสูงหากใช้งานหนัก ๆ อย่างเล่นเกมนาน ๆ หรือถ่ายวิดีโอ 8K และบางคนอาจติดเรื่องพอร์ตหูฟัง 3.5 mm ที่ไม่มีในตัวเครื่อง

ท้ายนี้ใครสนใจ Xiaomi 12 สามารถหาซื้อได้แล้วในราคาเริ่มต้นที่ 24,990 บาท หรือสั่งจองออนไลน์ได้ที่ lazada หรือ Shopee หรือสั่งจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย (True , AIS , Dtac) รับสิทธิ์ซื้อสินค้าในราคาพิเศษ

Comments Rating 0 (0 reviews)

Leave a Reply

User Review
  • วัสดุ / การออกแบบ
    Sending
  • สเปค / ฟีเจอร์
    Sending
  • ราคา / ความคุ้มค่า
    Sending

Follow us
Most popular
Category
Tag

Relate Article