รีวิว : ASUS ROG รวมชุดเกมมิ่งเกียร์ขั้นเทพ เอาใจสาย FPS และ Custom

ชุดนี้บอกเลยว่า ‘เดือด’ เป็นการรวมเกมมิ่งเกียร์ระดับ Top จาก ASUS มาไว้ในชุดเดียว ทั้งเมาส์และแผ่นรองเมาส์ที่เกิดมาเพื่อเกมเมอร์สาย FPS ซึ่งยังได้ร่วมมือกับทาง Aim Lap ผู้พัฒนา Aim Trainer ชื่อดังด้วย และยังมีคีย์บอร์ด Mechanical รุ่น Custom ตัวแรกจากทาง ASUS ROG ด้วย ที่สามารถปรับแต่งได้ตั้งแต่ปุ่มกดยันฐานวาง สุดท้ายจอ Monitor Gaming ขนาด 23.8 นิ้ว Full HD มาพร้อมรีเฟรชเรท 165Hz ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ในราคาเข้าถึงไม่ยาก ทั้งหมดจะเดือดขนาดไหน และน่าสอยแค่ไหน เกิดมาเพื่อ FPS จริงไหม ลองมาดูรีวิวนี้กัน 

ASUS ROG Harpe Ace Aim Lap

ประเดิมด้วยเมาส์ ROG Harpe Ace Aim Lap ที่สาย FPS อาจถูกใจสิ่งนี้ รอบนี้ทาง ASUS ได้จับมือกับทาง Aim Lap ผู้พัฒนา Aim Trainer ชื่อดัง หรือโปรแกรมช่วยฝึกการเล่นเกมยิง ๆ แบบ FPS ให้ได้ระดับโปรเกมเมอร์ และทาง Aim Lap ยังได้เข้ามาช่วยออกแบบเมาส์ ที่สามารถเล่นเกม FPS ได้อย่างคม ๆ อิงการออกแบบตามที่ Pro Player ต้องการ

Pro Player ต้องการอะไร ? ในที่นี้ก็หมายถึงเกมเมอร์สาย FPS ระดับมืออาชีพ ที่มาช่วยออกแบบร่วมกันด้วยนั้นเอง ทำให้ตัวเมาส์มีรูปทรงใหญ่พอดีมือ แต่จับกระชับ และยังมีน้ำหนักเบา โดยหนักเพียง 54 กรัมเท่านั้น !! แม้จะเป็นเมาส์ไร้สายที่มีแบตฯ ในตัวก็ตาม ใช่ครับ ROG Harpe Ace Aim Lab เป็นเมาส์ไร้สายที่หนักเพียง 54 กรัม (เอาแบตฯ ไปไว้ตรงไหนหนิ..) และหลักฐานของความเป็น Aim Lab Edition ก็อยู่ตรงโลโก้ของทาง Aim Lab ที่ซ่อนอยู่ด้านข้างหัวมุม โดยหากเอาไฟ UV มาส่อง ก็จะเห็นโลโก้เป็นแสงสีฟ้าชัดเจนขึ้น ดูเท่ไปอีกแบบ

วัสดุตัวเมาส์ จะเป็นพลาสติกผิวสาก หรือวัสดุไนลอนชีวภาพที่ช่วยให้น้ำหนักเบา ทนทาน และยังช่วยให้จับได้แน่นไม่หลุดมือง่าย ๆ เหมาะสำหรับการสะบัดเมาส์ ที่สะบัดหนึ่งครั้งต้องมี Head Shot ติดมาด้วย (ฮ่า) นับว่าเป็นเมาส์ที่เกิดมาเพื่อคอเกม FPS โดยแท้ แต่ก็แน่นอนว่าจะเอาไปเล่นเกมแนวอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน ไม่จำกัดเฉพาะ FPS เพียงอย่างเดียว ส่วนตัวปุ่มกดเป็น ROG Micro Switch ที่รองรับการกดได้มากกว่า 70 ล่านครั้ง และตอบสนองการกดได้ไวสุด ๆ ด้วย

นอกากรูปร่างและน้ำหนักแล้ว ตัวเมาส์ก็ยังมีเซ็นเซอร์ความแม่นยำสูง หรือมีชื่อหล่อ ๆ ว่า ROG AimPoint optical sensor โดยรองรับ DPI มากถึง 36,000 DPI ทั้งยังมีค่าเบี่ยงเบนคือ CPI เพียง 1% เท่านั้น (เมาส์ทั่วไปจะอยู่ราว ๆ 3%) ช่วยการันตีความแม่นยำยิ่งขึ้น คือบอกเลยว่าเป็นเมาส์เกมมิ่ง ที่แม้คุณไม่ใช่โปรเกม FPS แต่ก็สามารถใช้เมาส์ตัวนี้เพื่อ “เทิร์นโปร” ได้ แต่ถ้าเป็นสาย FPS อยู่แล้ว ก็เหมือนได้อาวุธชั้นเยิ่ยมอยู่ในมือ

จากที่ลองใช้งาน ก็พบเลยว่าตัวเมาส์ตอบสนองได้ดีจริง สะบัดเป็นสะบัด ยิงเป็นยิง แม่นเป็นแม่น ทั้งนี้ตัวเมาส์สามารถใช้งานได้ทั้งแบบมีสายหรือไร้สายผ่าน Wireless  2.4 GHz หรือกระทั่งต่อ Bluetooth ก็ยังได้ ทั้งยังมีตัว ROG SpeedNova wireless technology ซึ่งมาเป็น USB Dongle ก็ช่วยเพิ่มความเสถียรในการเชื่อมต่อมากขึ้นด้วย แน่นอนว่าในคลิปต่อใช้งานเรียบร้อย ผลก็ตามที่เห็นเลย อนึ่งตัวโปรแกรม Aim Lap หากใช้เมาส์นี้ ก็จะมี ‘โปรแกรมฝึกพิเศษ’ ของทาง ROG x Aim Lap ให้ด้วย ช่วยให้จัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการพัฒนาหรือช่วยเทิร์นโปร ให้กับผู้ใช้งานโดยเฉพาะ 

ASUS ROG Hone Ace Aim Lap 

ควบคู่ไปกับเมาส์ ROG Harpe Ace Aim Lap ก็ต้องมีแผ่นรองเมาส์ ที่เหมือนเกิดมาคู่กันอย่าง Hone Ace Aim Lap โดยได้ทาง Aim Lap ช่วยออกแบบเช่นกัน มีลวดลายเฉพาะ ที่สวยงาม และยังช่วยเป็น ‘โปรแกรมฝึก’ ใช้งานร่วมกับ Aim Trainer อย่าง Aim Lap ได้เป็นอย่างดีด้วย

สำหรับตัว ROG Hone Ace Aim Lap ก็เป็นแผ่นรองเมาส์แบบ Large-Size หรือขนาด L 508 x W 420 x H 3 mm นับว่ามาแปลกนิด ๆ ที่ไม่ได้มาเป็น XL size หรือสีเหลี่ยมผืนผ้าแบบที่เห็นประจำ อาจกล่าวได้ว่าเป็นแผ่นรองเมาส์ที่เหลือพื้นที่สำหรับเล่นเกม FPS แบบเหลือ ๆ ก็ว่าได้ 

วัสดุพื้นผิวผ้าก็มาเป็น ‘ไฮบริด’ มีการเคลือบสารเพื่อเพิ่มความลื่นไหล และ Nana Coating ช่วยให้กันน้ำ กันน้ำมัน และกันฝุ่น ทำให้ความสะอาดได้ง่าย (เหมือนกับตัว Scabbard II) ส่วนลวดลายก็มีตัวเลขเหมือนไม้บรรทัด ช่วยวัดการเตลื่อนไหว จุดนี้เอาไว้อิงกับโปรแกรม Aim Lab เพื่อเก็บข้อมูลการฝึกเพิ่มเติมได้

ASUS ROG Hone Ace Aim Lap ร่วมกับ 2 เกมมิ่งเกียร์ตัว Top อีก 2 ตัว

ASUS ROG AZOTH

ถูกใจสาย Custom และเกมมิ่งแน่ ๆ กับ ROG Azoth คีย์บอร์ด Mechanical รุ่น Custom ตัวแรกจาก ASUS ที่สามารถปรับแต่งได้ตั้งแต่ปุ่มกดยันฐานวาง มาแบบไม่คาดคิดจริง ๆ เพราะปกติคีย์บอร์ด Custom มักจะใช้สำหรับพิมพ์งานมากกว่า ลวดลายก็มีบ้าง แต่ไม่ได้จัดเต็ม ทว่ากับ ROG Azoth บอกเลยว่านี่คือคีย์บอร์ดเกมมิ่ง 2-in-1 พิมพ์งานก็ดี เกมก็มันส์ แสงสีก็มาเต็ม

ตัวคีย์บอร์ดมาพร้อมขนาด 75% ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินใจ มีปุ่มกดที่จำเป็นครบ วางตรงไหนก็ดูดี ส่วนดีไซน์,,,, อย่างสวย !! มาเป็น Ergonomic ที่ออกแบบสำหรับพิมพ์งาน แต่ ROG Azoth ยังนับได้ว่าเป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งสาย RGB แน่น ๆ โดยสวิตซ์ที่ใช้ก็ยังเป็น ROG NX (Red) ของ ASUS เอง และการออกแบบโดยรวมก็นับว่าไม่เสียชื่อ ROG จริง ๆ ดูแสงสีนั้นสิ ดูลวดลายนั้นสิ และดูโลโก้นั้น

โลโก้เคลื่อนไหวที่แสดงผลผ่านจอ OLED ที่ควบคุมการใช้งานผ่านปุ่มด้านข้าง ที่หมุนหรือกดได้ ช่วยควบคุมทั้งไฟ RGB ค่าความสว่าง ระดับเสียง และตัวโลโก้ RGB ได้ โดยไม่ต้องควบคุมผ่าน Armoury Crate ในจอคอมฯ เลย แต่ยังรองรับ AURA Sync นะเออ

ตัวคีย์บอร์ดยังรองรับการใช้งานไร้สายได้ทั้ง Wireless  2.4 GHz และ Bluetooth 5.1 หรือจะเสียบสายก็ได้ โดยมีเทคโนโลยีไร้สาย ROG SpeedNova ที่ช่วยให้มีความหน่วงต่ำ (ผ่าน 2.4 GHz) ตอบสนองการเล่นเกมได้ดี โดยหากปิดทั้ง RGB และจอ OLED ก็จะใช้งานได้ยาว ๆ กว่า 2,000 ชั่วโมง หรือเกือบ ๆ 3 เดือนกันเลย

และสุดเซอร์ไพรส์เลย ในกล่องยังมีชุดลูปสวิตช์ เอาใจสาย Custom คียบอร์ดโดยแท้ มีทั้งพู่กันและน้ำยาลูปหรือ Krytox™ GPL-205-GD0 ให้พร้อม ชุดแงะสวิตช์ ชุดดึงสวิตช์และคีย์แคป กระทั่งฐานวางสวิตช์ก็ยังมี ครบวงจรจริง ๆ ส่วนการลูปสวิตช์ช่วยอะไร คำตอบก็คือช่วยให้ได้สัมผัสการกดแป้นพิมพ์ที่ลื่นขึ้น และสมูธยิ่งขึ้น โดยจะสมูธแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เอง อนึ่งสติ๊กที่แถมมาก็สวยมาก ๆ เอาไปประดับเครื่อง PC หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้เต็มที่

ส่วน Feeling การกดเดิม ๆ ก็จะประมาณนี้ บอกเลยว่าถ้าผ่านการลูปแล้ว เสียงกดจะเพราะกว่านี้มาก 

ASUS ROG Delta S Wireless

หูฟังเกมมิ่งไร้สายน้ำหนักเบา ASUS ROG Delta S Wireless แม้จะไม่หูฟังเกมมิ่งตัว Top จาก ASUS แต่หากใครที่อยากได้หูฟังไร้สายคุณภาพ ในราคาที่ยอมรับได้ ตัว ROG Delta S Wireless นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลย 

แกะกล่องตัวหูฟัง ASUS ROG Delta S Wireless อุปกรณ์มาครบทีเดียว ฟองน้ำสำรองก็ยังมี

ด้านดีไซน์ก็สวยงามตามสไตล์ ROG สำหรับตัวหูฟังจะไม่ได้มีไฟ RGB สวย ๆ เหมือนตัว Top แต่ก็แลกมากับราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า และการใช้งานแบตฯ ที่นานกว่าด้วย โดยใช้งานได้นานถึง 25 ชั่วโมง กับรองรับชาร์จไวเพียง 15 นาที (ใช้ต่อไป 3 ชั่วโมง) มาพร้อมไดรเวอร์ ASUS Essence ขนาด 50 มม กับไมโครโฟน AI Beamforming พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน AI และมีฟองน้ำหูฟังรูปตัว D ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยให้สวมใส่ได้สบายและใส่ได้นาน

การเชื่อมต่อก็รองรับทั้ง Wireless 2.4 GHz และ Bluetooth (ต่อสายก็ได้) กับรองรับการใช้งานได้ทั้ง PC , Mac , PlayStation 5 และ Nintendo Switch

ASUS TUF Gaming VG247Q1A

ปิดท้ายด้วยจอ Monitor Gaming รีเฟรชเรทสูง ในราคาเข้าถึงไม่ยากอย่าง ASUS TUF Gaming VG247Q1A ที่มาพร้อมขนาด 23.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080) และรีเฟรชเรท 165Hz ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ  (รองรับการใช้งานร่วมกับ PS5 หรือ Xbox Series X/S ที่ความละเอียด Full HD@120Hz)

จุดเด่นของตัวจอเลยก็คือ ASUS Extreme Low Motion Blur (ELMB ™) เทคโนโลยีช่วยลดอาการเบลอของภาพในขณะเล่นเกมพร้อมการตอบสนองที่ 1ms (MPRT) ทำงานร่วมกับ Adaptive-sync และยังมี FreeSync™ Premium ช่วยลดการฉีกขาดของภาพเพื่อการเล่นเกมที่ราบลื่น กับมี Shadow Boost ช่วยเร่งแสงและเงาในฉากที่มืด (เห็นความสว่างนั้นไหมครับ) และสุดท้าย  Adaptive-Sync รองรับทั้ง NVIDIA G-SYNC กับ AMD FreeSync 

ลองใช้งานตัวจอ TUF Gaming VG247Q1A พร้อม ๆ กับชุดเกมมิ่งเกียร์แบบ Full Set ทั้ง ROG Harpe Ace Aim Lap เมาส์ Pro Player , ROG Hone Ace Aim Lap แผ่นรองเมาส์ไฮบริด และ ROG AZOTH คีย์บอร์ด Custom ตัวแรกจาก ASUS แถมด้วยหูฟัง ASUS ROG Delta S Wireless (ที่ครอบกล้องถ่ายอยู่นั้นแล) เข้ามาด้วย ความรู้สึกบอกเลยว่า Fin เป็นการเล่นเกมที่มีความสุขมาก~

สรุป

Shops
แชร์ :
review
  • วัสดุ / การออกแบบ
  • สเปค / ฟีเจอร์
  • ราคา / ความคุ้มค่า

Summary

โดยรวม อาจบอกได้ว่าเกมมิ่งเกียร์ชุดนี้ เหมาะสำหรับคอเกมสาย FPS หรืออยากหัดเล่นเกมแนวนี้ โดยเฉพาะตัวเมาส์ ROG Harpe Ace Aim Lap กับแผ่นรองเมาส์ ROG Hone Ace Aim Lap คือเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลย สืบเนื่องจากได้ทาง Aim Lap มาช่วยออกแบบให้นั้นเอง 

สำหรับตัว ROG AZOTH ก็เป็นคีย์บอร์ด Custom ที่เรียกได้ว่า ‘เจ็บแต่จบ’ คือต้องบอกเลยว่าคีย์บอร์ด Custom ปกตินั้น อาจต้องไปหาทั้งสวิตช์ ทั้งคียแคป ชุดลูป และอื่น ๆ เอาเอง แต่ตัวคีย์บอร์ดนี้ของ ASUS มีทุกอย่างให้พร้อมแล้ว และขึ้นชื่อว่าคีย์บอร์ด Custom สัมผัสการกดย่อมต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไปแน่นอน แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีราคาสูงใช่เล่นทีเดียว 

ส่วนจอ TUF Gaming VG247Q1A กับหูฟัง ROG Delta S Wireless ทั้งสองตัวแม้จะไม่ได้เป็นตัวหลักเหมือน 3 ตัวก่อนหน้า แต่ก็ยังจัดว่าเป็นอุปกรณ์ระดับ Hi-End ที่เข้าถึงได้ง่าย เอามาใช้ร่วมกันก็ทำได้ไม่มีปัญหา สุดท้ายนี้อุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ทั้งหมด สามารถมาดูได้งาน Commart วันที่ 2 – 5 มี.ค. นี้ หรือหากพ้นงานแล้ว ก็ยังหาซื้อได้ตามร้านค้าไอทีทั่วประเทศ

ราคาวางจำหน่ายทั้งหมด

  • ASUS ROG Harpe Ace Aim Lap ราคา 4,490 บาท 
  • ASUS ROG Hone Ace Aim Lap ราคา 990 บาท 
  • ASUS ROG AZOTH ราคา 8,290 บาท
  • ASUS ROG Delta S Wireless ราคา 3,990 บาท
  • ASUS TUF Gaming VG247Q1A ราคา 7,990 บาท
Comments Rating 0 (0 reviews)

Leave a Reply

User Review
  • วัสดุ / การออกแบบ
    Sending
  • สเปค / ฟีเจอร์
    Sending
  • ราคา / ความคุ้มค่า
    Sending

Follow us
Most popular
Category
Tag

Relate Article