[Review] จะเป็นอย่างไรหาก ‘จอพกพา’ ที่เด่นเรื่องความบางเบา มารวมร่างกับ ‘เมาส์ปากกา’ จนออกมาเป็น ASUS ProArt Display PA169CDV จอแท็บเล็ต IPS ระดับ 4K 10-Bit พร้อม sRGB 100% และยังได้เทคโนโลยีปากกา EMR ส่งตรงจาก Wacom ให้ประสบการณ์วาดเขียนดีเยี่ยม ตัวจอจะตอบโจทย์การใช้งานได้มากน้อยแค่ไหน ลองมาดูรีวิวนี้กันครับ
สเปกเด่น ASUS ProArt Display PA169CDV
ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.asus.com/displays-desktops/monitors/proart/proart-display-pa169cdv/
- ขนาด : 15.6 นิ้ว สัดส่วน 16:9 รองรับ Multi-Touch 10 จุด
- พาแนล : IPS ความละเอียด 4K@60Hz รองรับ HDR10 10-Bit
- ขอบเขตสี : sRGB 100%
- คอนทราสต์ : 1200:1
- ช่วงเวลาการตอบสนอง : 10ms (GTG)
- พอร์ตเชื่อมต่อ : USB-C (DP รองรับ PD 15W) x 1 , USB-C x 1 และ HDMI (v2.0) x 1
- ขนาด : 14.57 x 9.33 x 0.47 นิ้ว
- น้ำหนัก : 1.07 กิโลกรัม
- มาตรฐาน : Energy Star , TÜV Flicker-free , TÜV Low Blue Light , VESA DisplayHDR 400 , Calman Verified และ Pantone Validated
ขนาดพกพาง่าย
เสมือนพกแท็บเล็ต ตัวจอมาพร้อมขนาดความบางเพียง 12.1 มม. และหนัก 1.07 กก. เท่านั้น ซึ่งมาในร่างจอพกพาขนาด 15.6 นิ้ว
ขาตั้งจอ 2 แบบ
ตัวจอมาพร้อมขาตั้ง 2 แบบ ซึ่งใช้เป็นจอ Monitor หรือใช้เป็นจอสำหรับวาดรูปก็ได้ ส่วนตัวบานพับก็เป็นอลูมิเนียมอย่างดี เวลาใช้งานก็ไม่มีอาการโยกเยกให้เห็นเลย จุดนี้ต้องชมจริง ๆ เพราะในจอพกพาบางรุ่น ก็ทำขาตั้งได้น่าเป็นห่วงเหลือเกิน
พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C
สำหรับการเชื่อมต่อนั้น ตัวจอมาพร้อมพอร์ต USB-C ให้สองช่อง กับ HDMI อีกหนึ่ง โดยมี USB-C ช่องหนึ่ง รองรับการต่อสัญญาณภาพ (DP Alt Mode) พร้อม Power Delivery 15W ซึ่งสามารถต่อสาย USB-C ช่องเดียว พร้อมจ่ายไฟเลี้ยงได้ในสายเส้นเดียว
ส่วนเครื่องที่ใช้เชื่อมต่อก็มี Mini PC จากทาง Intel (ที่ ASUS รับมาพัฒนาต่อเรียบร้อย) อย่าง Intel Nuc 13 Pro กับสเปก Intel Core i5-1340P โดยตัวเครื่องก็มีช่อง USB-C (Thunderbolt 4) ให้สองช่อง ใช้เชื่อมต่อกับตัวจอ ProArt Display PA169CDV ด้วยสาย USB-C เส้นเดียวได้สบาย
อย่างไรก็ตาม หากต้องการใช้โหมด sRGB , Adobe RGB , DCI-P3 และ Rec. 709 นอกจาก Standard ของหน้าจอ ก็จำเป็นต้องต่อสายไฟเลี้ยงผ่าน USB-C อีกเส้น ใครที่ซีเรียสเรื่องการแสดงผล ก็ต้องใช้ตามนี้
หน้าจอ 4K HDR พร้อม 100% sRGB และ Delta E < 2 สีสวยตรง
ตามสเปกตัวจอมาพร้อมขนาด 15.6 นิ้ว สัดส่วน 16:9 พาแนล IPS ความละเอียด 4K@60Hz รองรับ HDR10 และ 10-Bit กับมี 100% sRGB และ Delta E < 2 สีสวยตรง ที่ได้รับการรับรองจากทาง Calman Verified กับ Pantone Validated เรียบร้อย ลองใช้งานจริงก็บอกได้เลยว่า “ของแทร่”
ตัวอย่างการแสดงผล
ด้วยสเปกจอระดับนี้ ก็เหมาะสำหรับงาน Creator ที่ต้องการความแม่นยำในการแสดงผลสีอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นจอขายหลักของ ProArt Display PA169CDV ที่ต้องการชูว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับมืออาชีพโดยเฉพาะ
ปุ่ม ASUS Dial ใช้ตั้งค่าหรือตั้งเป็นปุ่มลัดสำหรับบางโปรแกรมได้
อีกหนึ่งฟีเจอร์สำหรับมืออาชีพ ก็มีปุ่ม ASUS Dial ที่อยู่บริเวณขอบจอ สามารถใช้เป็นปุ่มตั้งค่าหน้าจอ และใช้เป็นปุ่มลัดในบางโปรแกรมได้
ASUS Control Panel ใช้เป็นจอปุ่มลัดแบบสัมผัสได้
สำหรับจอ ProArt Display PA169CDV สามารถใช้ร่วมกับ ProArt Creator Hub เพื่อแปลงตัวจอให้กลายเป็นแผง Dial หรือปุ่มลัดแบบ Touch Screen ได้เลย แต่ส่วนตัวขอตินิดหน่อย ตรงที่การตั้งค่าใช้งานนั้น แอบยุ่งยากพอควร ต้องใช้เวลาศึกษาการใช้อยู่พักหนึ่งเลย
ใช้งานสัมผัสได้ 10 จุด พร้อมปากกา Wacom EMR
มาถึงส่วนไฮไลท์ของรีวิวนี้แล้ว นอกจากความคมชัดที่ทาง ASUS ProArt ชูเป็นพิเศษแล้ว ก็ยังมีการนำเทคโนโลยีปากกา EMR ส่งตรงจาก Wacom มาร่วมด้วย ทำให้ตัวจอใช้งานเป็นเมาส์ปากกาแบบมีหน้าจอสัมผัส 10 จุด ช่วยให้ใช้งานได้อย่างมืออาชีพเช่นกัน
ซึ่งตัวปากกาก็รองรับแรงกดได้ 4096 ระดับ กับรองรับการเอียงหัวปากกาได้ 40 องศา และด้วยเทคโนโลยี EMR ก็ช่วยให้ตัวปากกาไม่ต้องมีแบตฯ ในตัว ทำให้มีน้ำหนักเบา ให้สัมผัสการวาดเขียนบนหน้าจอแบบไร้สิ่งรบกวน และแทบไม่มีค่าความหน่วงตามสไตล์ Wacom
ต่อสมาร์ทโฟนผ่าน USB-C
แถมท้าย ตัวจอสามารถนำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมาต่อขยายผ่าน USB-C ได้ แต่ตัวจอต้องเสียบไฟเลี้ยงนะ
สรุป
โดยสรุปแล้ว ASUS ProArt Display PA169CDV ถือได้ว่าเป็น “Pen Display” หรือเมาส์ปากกาที่มาพร้อมจอ Monitor สเปก Hi-End ทำให้ใช้งานได้ดีทั้งการวาดรูปและการใช้เป็นจอทำงานสาย Creator หรือ Workstation ได้สุดทั้งสองแบบ อนึ่งตัวจอยังมีความบางไม่ต่างจากแท็บเล็ต ช่วยให้พกพาได้ง่ายเป็นพิเศษ สุดท้ายนี้ตัวจอเปิดราคาที่ 29,XXX บาท ราคาจัดว่าสูงใช่เล่น แต่ก็ได้คุณภาพตามสเปก
