ไหนใครเป็นเกมเมอร์ บอกหน่อยว่า
เวลาเล่นเกม ใช้โหมดไหนเล่น ระหว่าง โหมดเต็มจอ (Full Screen) หรือ ไร้ขอบ (Borderless) ซึ่งจากข้อมูล บางคนบอกว่า Fullscreen ให้เฟรมเรตสูงกว่าจริงไหม หรือแทบจะไม่ต่างกัน
มีข้อมูลยืนยันจากนักเขียนของเว็บ PC World ที่เขาได้ทดสอบ Cyberpunk 2077 บนสเปก Ryzen 5 และ RTX 2070 Super พบว่าเฟรมเรตแทบไม่ต่างกันครับ (77.6 fps vs 77.2 fps)
ในเมื่อเฟรมเรตไม่ต่างกัน แล้วเราควรเลือกใช้โหมดไหน
Fullscreen
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจดจ่อกับเกมอย่างเดียว ไม่ต้องการให้มีอะไรมารบกวน มีข้อดีคือ ระบบ Windows จะให้ทรัพยากรกับเกมเต็มที่, ล็อกเมาส์เคอร์เซอร์ไว้ในเกม ลดโอกาสการคลิกพลาดไปโดนหน้าต่างอื่น ป้องกันการแจ้งเตือนหรือโปรแกรมอื่นเด้งมารบกวน
ส่วนข้อเสียคือ การสลับหน้าจอหรือสลับไปใช้โปรแกรมอื่น ช้ามาก บางเครื่องอาจใช้เวลาเกือบนาที
Borderless Window หรือ หน้าต่างไร้ขอบ
เหมาะสำหรับ คนที่เล่นเกมไปด้วย ทำอย่างอื่นไปด้วย เช่น ตอบแชท, เปิดเว็บหาข้อมูล, ดูคลิปสอนเล่นบนจออีกจอ ข้อดีคือสลับหน้าจอหรือโปรแกรมอื่นได้ รวดเร็วมาก โดยที่เกมไม่ถูกย่อ ทำให้กลับเข้าเกมได้ทันที
ข้อเสียคือ อาจมีปัญหาเรื่องการแสดงผลหรือสเกลภาพผิดเพี้ยนในบางเกม หรือเคอเซอร์เมาส์ในหน้าต่าง Windows ไปแสดงแทนเคอเซอร์ในเกม หรือหากเปิดโปรแกรมอื่นที่กินทรัพยากรเครื่องหนักๆ อาจส่งผลให้เฟรมเรตตกได้มากกว่าโหมด Fullscreen เล็กน้อย
แม้ Fullscreen จะมีการจัดสรรทรัพยากรให้เกมมากกว่า แต่ผลกระทบต่อเฟรมเรตอาจไม่มากอย่างที่คิด ยกเว้น คุณเปิดโปรแกรมกินสเปกหนักๆ ทิ้งไว้ในพื้นหลังเมื่อใช้ Borderless
ซึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง DirectX 12 ช่วยให้เกมจำนวนมากทำงานได้ดีบนโหมด Borderless มากขึ้น สามารถใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้เหมือน Fullscreen
ส่วนตัวไม่เคยมีปัญหาเฟรมเรตตกนะ แต่เกมปิดอัตโนมัติไปเลยในโหมด Full Screen ซึ่งเป็นแค่บางเกม หรือเกมเก่า ๆ ที่ไม่ได้รองรับ DirectX ใหม่ ทำให้ต้องเปิดโหมดไร้ขอบครรับ
สรุปคือ ไม่มีโหมดไหนดีกว่าอย่างชัดเจน การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับความต้องการและสไตล์การเล่นของเอง ถ้าเน้นเล่นเกมอย่างเดียว ไม่สลับจอ Fullscreen อาจจะดีกว่าเล็กน้อยในแง่ความเสถียร แต่ถ้าคุณชอบทำหลายอย่างพร้อมกัน Borderless จะสะดวกกว่ามาก แนะนำให้ลองปรับใช้ทั้งสองแบบดูว่าชอบแบบไหนที่สุดครับ
ที่มา
