พี่ใหญ่ประจำซีรีส์อย่าง iPhone 17 Pro มาพร้อมดีไซน์ (ตามข่าวหลุดเป๊ะ ๆ) แบบใหม่ ที่ขยายโมดูลกล้องจนใหญ่สะดุดตา กับขึ้นรูปอะลูมิเนียมแบบชิ้นเดียว โดยเปลี่ยนไทเทเนียมกลับมาเป็นอะลูมิเนียมทั้งหมดเลย ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทาน การระบายความร้อน และยัดสเปกได้แรงกว่าเดิมด้วย
iPhone 17 Pro มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว (17 Pro) และ 6.9 นิ้ว (17 Pro Max) รองรับ ProMotion เช่นเดิม โดยมีรีเฟรชสูงสุด 120Hz เช่นกัน ด้านชิปก็มาพร้อม A19 Pro เหมือน iPhone Air โดยมีขนาด 3 นาโนเมตร แรงระดับ MacBook Pro แต่พอมาอยู่ใน iPhone 17 Pro อาจขับประสิทธิภาพได้ดีขึ้น เพราะด้วยขึ้นรูปอะลูมิเนียมแบบชิ้นเดียว ก็ช่วยระบายความร้อนจนมีประสิทธิภาพการทำงานต่อเนื่องดีขึ้น 40% เลย
ด้านหลังตัวเครื่องก็ใช้ Ceramic Shield ทั้งด้านหลังและหน้าจอ ซึ่งให้ความทนทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีขึ่น 3 เท่า พร้อมเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน 7 ชั้นที่หน้าจอ ให้การแสดงผลที่สว่างสดใสแม้อยู่ในที่แจ้ง
ส่วนตัวกล้อง Fusion ก็มาพร้อม 3 เลนส์ และมีความละเอียด 48MP ทั้งหมดเลย !! โดยแบ่งเป็นกล้องหลัก 48MP F/1.78 กล้อง Tela 48MP x4 F/2.2 ระยะ 100 มม. (ถ้า x8 ระยะ 200 มม. เหลือ 12MP) และกล้อง Ultra Wide 48MP F/2.8 พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น 56% ซึ่งช่วยให้ถ่ายซูมได้คมกว่าเดิม ถ่ายที่แสงน้อยก็ชัดกว่าเคยด้วย ส่วนกล้องหน้าก็มาพร้อมความละเอียด 18MP กับมี Center Stage
อนึ่งตัว iPhone 17 Pro รองรับ ProRes RAW หรือ Codec วิดีโอที่ Apple พัฒนาขึ้นเองเป็นรุ่นแรกด้วย ช่วยให้ถ่ายวิดีโอได้ระดับภาพยนตร์ กับรองรับขอบเขตสีที่กว้างขึ้นด้วย Apple Log 2 และรองรับ Genlock สำหรับการซิงค์วิดีโอด้วยอีก
ด้านแบตฯ ที่ Apple ชูว่ามีขนาดใหญ่ขึ้นนั้น ก็เผยสามารถดูวิดีโอได้นานถึง 39 ชั่วโมง ซึ่งมอบอายุการใช้งานแบตฯ ได้ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนรุ่น iPhone 17 Pro ที่มี eSIM ก็จะมีอายุการใช้งานแบตฯ ที่ยาวนานกว่า
ราคาและวันจำหน่าย
iPhone 17 Pro รุ่นเริ่มต้น 256GB เปิดราคาที่ 43,900 บาท พร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 19 กันยายน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.apple.com/th/iphone-17-pro/