ดูเหมือนว่ายุคของ RAM 16GB สำหรับคอมเล่นเกมกำลังจะสิ้นสุดลงเร็วกว่าที่คิดนะครับ เมื่อผลสำรวจฮาร์ดแวร์ล่าสุดจาก Steam ในเดือนสิงหาคม 2025 เผยให้เห็นเทรนด์ที่น่าสนใจของเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลก
ในแต่ละปีมีเกมใหม่ๆ เปิดตัวออกมามากมาย แต่หลายเกมมักประสบปัญหาการปรับแต่ง (Optimization) ที่ไม่ดีพอ ทำให้แม้แต่คอมพิวเตอร์สเปคสูงก็ยังเจอปัญหา หรือบางเกมก็ต้องการสเปคที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เกมเมอร์ต้องหันมาอัปเกรดชิ้นส่วนที่สำคัญอย่าง RAM กันมากขึ้น
ข้อมูลจาก Steam ระหว่างเดือนมีนาคม – สิงหาคม 2025 ชี้ให้เห็นว่า
1.ผู้ใช้งาน RAM 16GB ลดลงเล็กน้อยจาก 43.12% เหลือ 41.67%
2.ในขณะที่ผู้ใช้งาน RAM 32GB เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 32.85% เป็น 35.42%
แม้ตัวเลขอาจดูไม่หวือหวา แต่การเติบโต 2.57% ของฝั่ง RAM 32GB นั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย เพราะเกมระดับ AAA ใหม่ๆ หลายเกมในปัจจุบัน แนะนำให้ใช้ RAM 32GB เพื่อให้ประสบการณ์การเล่นที่ดีที่สุด
แล้ว RAM 16GB พอไหมในปัจจุบัน? คำตอบคือยังพอไหวแหละ แต่สำหรับเกมที่กินทรัพยากรเครื่องหนักๆ ผู้เล่นอาจต้องเจอกับปัญหาเกมกระตุก หรืออาการสะดุดเป็นระยะๆ โดยเฉพาะกับเกมที่เพิ่งอัปเดตแพทซ์ใหม่อย่าง POE 2 ที่ดูเหมือนจะกินไม่เยอะ คอม 16GB ก็แทบจะปริ่มน้ำแล้วแหละ
และตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเกมอย่าง Star Wars Jedi: Survivor, Monster Hunter Wilds, และ Dragon’s Dogma 2 ซึ่งเป็นเกมที่ขึ้นชื่อว่ากินสเปคและยังต้องการแพตช์แก้ไขประสิทธิภาพอีกมาก การมี RAM 32GB จะช่วยลดอาการกระตุกและทำให้ค่า Frame Time ดีขึ้นนะ
นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ ก็มีส่วนผลักดันเทรนด์นี้เช่นกัน
1.เครื่องเล่นเกมพกพาอย่าง Handheld Gaming PC ที่ผู้ผลิตเริ่มออกรุ่นที่มี RAM 32GB มากขึ้น
2.Windows 11 ที่กินทรัพยากรเครื่องมากขึ้น เพราะระบบปฏิบัติการเองก็มีโปรแกรมเบื้องหลังที่ทำงานตลอดเวลาและกิน RAM ไปส่วนหนึ่ง
3.การอัปเกรดแรมยังถือว่ามีราคาที่จับต้องได้มากกว่าการเปลี่ยนการ์ดจอ หรือ CPU
สำหรับเกมเมอร์ที่เล่นเกมบนจอความละเอียดสูง (1440p ขึ้นไป) ปรับกราฟิกสูงสุด และมักจะเปิดโปรแกรมอื่นอย่างเว็บเบราว์เซอร์หรือ Discord ไปพร้อมๆ กับการเล่นเกม จะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน เพราะเกมยุคใหม่หลายเกมเริ่มใช้ RAM เกิน 16GB ไปแล้วเมื่อใช้งานแบบนี้
ไม่ช้าก็เร็ว เกมระดับ AAA ส่วนใหญ่จะกำหนดให้ RAM 32GB เป็นสเปคแนะนำแหละ ใครคิดจะอัปเกรด รอ Commart ปลายปีกัน พฤศจิกายนนี้แล้ว
ที่มา