หากใครกำลังวางแผนจะประกอบคอมใหม่หรืออัปเกรดเครื่องเก่า ช่วง Commart นี้ กำลังเป็นช่วงสัญญาณดีจะซื้ครับ
มีข้อมูลว่า RAM DDR5 ที่เราใช้กัน พุ่งขึ้นกว่าเท่าตัวในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะคลื่นลูกต่อไปกำลังจะซัดเข้าหา GPU หรือการ์ดจอ ที่เป็นหัวใจหลักของชาวเกมเมอร์และคนทำงาน
สัญญาณคืออะไร ?
1.RAM DDR5 แพงขึ้นเท่าตัว
ข้อมูลจากตลาดชี้ชัดว่า RAM DDR5 ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของ PC ตอนนี้ มีราคาสูงขึ้นมาก มีข้อมูลว่าชุด RAM ยอดนิยมที่ความจุ 32GB DDR5-6000 จากที่เคยหาซื้อได้ในราคาเฉลี่ยประมาณ ราว 4,400-4,500 บาท ตลอดทั้งปี ตอนนี้ราคาพุ่งทะลุไปที่ 8,800-9,000 บาท ไปแล้ว สถานการณ์นี้ชัดเจนว่าไม่ใช่การขึ้นราคาปกติ แต่เป็นภาวะขาดแคลนที่กำลังเริ่มต้น และแนวโน้มยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดครับ
2. มันเกิดอะไรขึ้น? คำตอบคือ AI
ต้นตอของวิกฤตครั้งนี้ ไม่ใช่เหมืองคริปโตเหมือนในอดีต แต่เป็นสงครามแย่งชิงทรัพยากรการผลิต ที่นำโดยยักษ์ใหญ่ด้าน AI พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ
2.1 AI บูมสุดขีด ศูนย์ข้อมูล AI ขนาดมหึมาทั่วโลก เช่นโปรเจกต์ Stargate ของ OpenAI กำลังถูกสร้างขึ้น และมันต้องการหน่วยความจำประสิทธิภาพสูง จำนวนมหาศาลเพื่อใช้ฝึก AI
นอกจากนี้ หน่วยความจำที่ AI ต้องการคือ HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งเป็นชิปหน่วยความจำราคาสูงที่อยู่บนการ์ดจอสำหรับ AI
3.โรงงานที่ผลิตชิปหน่วยความจำ มีจำกัด และโรงงานเหล่านี้คือที่เดียวกันกับที่ผลิต DDR5 (RAM PC) และ GDDR (VRAM บนการ์ดจอเกมมิ่ง)
4.บริษัทเหล่านี้ ยอมทุ่มเงินจ่ายแพงกว่า โดยยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อจองกำลังการผลิต HBM ผู้ผลิตอย่าง SK Hynix หรือ Samsung ก็ย่อมโยกสายการผลิตจาก DDR5 และ GDDR ที่กำไรน้อยกว่า ไปผลิต HBM ให้ AI แทน
ผลลัพธ์คือ ของสำหรับผู้บริโภคทั่วไปอย่างเราๆ จึงถูกผลิตน้อยลง สวนทางกับความต้องการที่เท่าเดิม เมื่อของขาดแคลน ราคาก็ย่อมพุ่งสูงขึ้น
นี่คือฝันร้ายของเกมเมอร์ที่หวนกลับมา มันคือเหตุการณ์ซ้ำรอยยุคคริปโตบูมที่เหมืองแย่งซื้อการ์ดจอจนขาดตลาด แต่ครั้งนี้ศัตรูของเราคือ AI ที่มีความต้องการสูงกว่าและมีกำลังซื้อที่มหาศาลกว่ามาก
คลื่นลูกที่สอง การ์ดจอกำลังจะแพงขึ้น
ตอนนี้ราคการ์ดจอดูเหมือนจะยังนิ่ง แต่ผมเชื่อว่า มันคือความสงบก่อนพายุใหญ่จะมา
เหตุผลที่การ์ดจอจะแพงขึ้น เป็นเพราะ VRAM เช่น GDDR6, GDDR7 ที่อยู่บนการ์ด ก็ผลิตจากโรงงานเดียวกับ HBM และ DDR5 ที่กำลังขาดแคลน และตอนนี้ราคา Spot Price ของ GDDR6 ก็เริ่มขยับขึ้นแล้วกว่า 30%
ที่เลวร้ายกว่านั้นคือกลไกการบวกกำไรที่เพิ่มขึ้น สมมติว่าต้นทุน VRAM 16GB ที่ใช้บนการ์ดจอ แพงขึ้น $20 (ประมาณ 700 บาท) มันไม่ได้แปลว่าราคาการ์ดจอจะแพงขึ้น 700 บาท เพราะเมื่อ Nvidia หรือ AMD ขายแพ็คเกจชิป+VRAM ให้กับแบรนด์ต่างๆ พวกเขาจะบวกอัตรากำไร ของตัวเองทับลงไปบนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนั้น
ผลคือต้นทุน VRAM ที่เพิ่มขึ้นแค่ $20 อาจทำให้ราคาขายส่งแพงขึ้น $40-$50 เมื่อผ่านมือตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าปลีก ราคาที่เราต้องจ่ายจริงอาจแพงขึ้น $60-$70 หรือหลายพันบาท
หากสถานการณ์เลวร้ายถึงขั้นที่ราคา VRAM แพงขึ้นเท่าตัวเหมือน DDR5 เราอาจได้เห็นการ์ดจอรุ่นกลางอย่าง RTX 5060 Ti หรือ RX 9060 XT มีราคาแพงขึ้น 3,500 – 4,000 บาทเลยทีเดียว
สาเหตุที่เรายังไม่เห็นราคาการ์ดจอพุ่งขึ้นในวันนี้ เป็นเพราะสินค้าที่วางขายในร้านค้า คือสต็อกเก่า ที่ถูกผลิตและสั่งซื้อมาในต้นทุน VRAM ที่ยังไม่แพง แต่สต็อกใหม่ที่กำลังจะเข้ามาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะถูกผลิตด้วยต้นทุนใหม่ที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นั่นหมายความว่า ราคาการ์ดจอที่เราเห็นในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ราคาเปิดตัว หรือ MSRP ถือเป็นราคาที่ดีที่สุดในรอบปี และอาจเป็น ราคาที่ถูกที่สุดที่เราจะได้เห็นไปอีกนาน
หากใครกำลังลังเลว่าจะอัปเกรดคอม หรือรอโปรโมชั่นลดราคาหรือคิดว่าซื้อปีหน้าก็ได้ บอกเลยว่า วันนั้นการ์ดจะขึ้นราคาอีก… และแนวโน้มที่เรา จะเห็นราคาลดลง ในเร็วก็เป็นไปได้ยาก มีแต่จะคงที่หรือพุ่งขึ้นเท่านั้น หากใครมีแผนจะซื้อคอมใหม่อยู่แล้ว นี่คือจังหวะที่ดีที่สุดครับ เจอกัน Commart Unbox 27-30 พฤศจิกายนนี้ ที่ ไบเทค บางนา เข้าฟรี
ที่มา
