ก่อนหน้านี้ไม่นาน ทาง Huawei ได้เปิดตัวของชุดใหญ่ โดยมีทั้งโน้ตบุ๊ก Matebook D15 แท็บเล็ต MediaPad M6 และสมาร์ทโฟนตัวใหม่อย่าง Huawei Y7p ซึ่งเป็นน้องเล็กตัวล่าสุด โดยมีสเปกรองจาก Huawei Y9s ที่จะมารีวิวในครั้งนี้เอง และอาจเรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟน Huawei รุ่นสุดท้าย ที่มาพร้อม Google Mobile Services ในตัว หรือโหลดแอปฯ จาก Google Play ได้นั้นเอง
ตัว Huawei Y9s ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางอีกรุ่น (ต่อยอดจาก Huawei Y9 รุ่น 2019) ที่มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว โดยเลนส์หลักมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล และ Depth Sensor หรือเลนส์ถ่ายชัดลึก 2 ล้านพิกเซล เช่นเดียวกับรุ่น Huawei Y7p เลย หน้าจอขนาด 6.59 นิ้ว ไม่มีรูกลองหน้า สเปกใช้ซีพียู Kirin 710F กับแรม 6GB + รอม 128GB และแบตฯ 4,000 mAh ในราคาไม่เกิน 1 หมื่นบาท !!
สเปก Huawei Y9s
Display : หน้าจอ Fullview Display ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2340 x 1080)
CPU : Hisilicon Kirin 710F (4×2.2 GHz Cortex-A73 & 4×1.7 GHz Cortex-A53)
GPU : Mali-G51 MP4
RAM : 6GB
ROM : 128GB รองรับ MicroSD
Main Camera : กล้อง 3 แบ่งเป็น เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F/1.8 เลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล F/2.4 และ Depth Sensor หรือเลนส์ถ่ายชัดลึก 2 ล้านพิกเซล F/2.4 วิดีโอ 1080p@30fps
Front Camera : กล้องหน้าแบบ Pop-Up ความละเอียด 16 F/2.2 วิดีโอ 1080p@60fps
Battery : Li-Ion 4,000 mAh
Connect : USB Type-C 1.0
Bluetooth : 4.2
Network : 802.11b/g/n, 2.4 GHz
ขนาดตัวเครื่อง : 163.1 x 77.2 x 8.8 mm
น้ำหนัก : 206 g
ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.1
สีให้เลือก : Midnight Black และ Breathing Crystal
แกะกล่อง
จากสเปกข้งาต้น เรียกได้ว่าถอดมาจากตัว Huawei Y9 รุ่น 2019 แทบจะทั้งดุ้นเลย ตัวกล่องก็ตามสไตล์ Y Series ของ Huawei มาเป็นกล่องสีขาว พร้อมรูปตัวเครื่อง Huawei Y9s บนกล่อง
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องก็ประกอบไปด้วย Huawei Y9s x 1, อุปกรณ์ชาร์จ x 1, สายชาร์จ Type- C x 1, ชุดหูฟัง x 1, เคสป้องกันรอย TPU x 1, คู่มือการใช้งาน x 1, อุปกรณ์ถอดซิม x 1 และ ใบรับประกัน x 1
วัสดุและดีไซน์
สี Midnight Black ของ Huawei Y9s ก็มีความเงางาม ดูเรียบหรูมาก ตัวเครื่องมีสีดำแทบทั้งตัว (ยกเว้นขอบเลนส์กล้องอ่ะนะ : b) มีขอบโค้งมนแบบ 3D Curve เหมือนสมาร์ทโฟนระดับ Hi-End หลาย ๆ รุ่น
ความบางของตัว Huawei Y9s อยู่ที่ 8.8 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 206 กรัม (แอบหนักนิด ๆ) แม้จะมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.59 นิ้ว แต่ก็สามารถพกพาได้สะดวก จับถนัดมือ อีกทั้งขอบตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม แข็งแรงทนทาน พอร์ตต่าง ๆ อย่างช่องใส่ SIM, ช่อง USB-C, หูฟัง 3.5 มม. และกล้องหน้าแบบ Pop-Up ก็มาอยู่ขอบบนกับขอบล่างหมดเลย ทำให้ขอบด้านข้างของตัวเครื่องดูเรียบเนียนไปเลย
จะมีก็เฉพาะปุ่ม Power ที่มาพร้อมตัวสแกนลายนิ้วมือในตัว กับมีปุ่ม Volume เพิ่ม/ลดระดับเสียงเท่านั้น
ตัวปุ่ม Power พร้อมสแกนลายนิ้วมือ ก็จะมีร่องสำหรับเอานิ้วไปวางโดยเฉพาะ ทำให้จับสัมผัสได้ง่ายและสะดวกต่อการปลดล็อค
กล้องหน้าแบบ Pop-Up ที่จะเลื่อนออกมาทันทีหลังเปิดกล้อง อีกทั้งมีฟีเจอร์เก็บตัวเองอัตโนมัติด้วย หากตัวเครื่องพบว่ากำลังร่วงตกพื้น
ส่องความงามของตัว Huawei Y9s รุ่นสี Midnight Black แบบเต็ม ๆ
หน้าจอ Fullview Display ขอบบาง ไม่มีรูกล้องหน้า แสดงผลเต็มตาได้ใจ ขนาด 6.59 นิ้วกว้างกว่าที่คิด กับความละเอียด Full HD+ (2340 x 1080) ที่สวยคมชัดมาก ๆ
ซอฟต์แวร์
ตัว Huawei Y9s มาพร้อม Android 9.0 Pie และ EMUI 9.1 ตามสไลต์คือ ไม่มีหน้าเมนูแอปฯ แยกต่างหาก แต่มาเรียงในหน้า Home แทน ซึ่งใช้งานได้สะดวก ปัดไปคือเจอแอปฯ ที่เราลงล่าสุดเลย (ลงเยอะก็ปัดต่อไปอีก : b)
อยากที่เกริ่นไป Huawei Y9s ยังมาพร้อม Google Mobile Services กับ Google Play อยู่ สามารถใช้งานบริการจาก Google ได้ไม่ติดขัดอะไร
ส่วนชุดเครื่องมือหรือแอปฯ จาก Huawei ก็มีมาให้ (ไม่มีสิแปลก) ทว่าตัว Huawei Store ต้องไปโหลดเอาใน Google Play เองนะ
แบตฯ ขนาด 4000 mAh ของตัว Huawei Y9s จากที่ลองใช้อย่างต่อเนื่อง ต้องยอมรับเลยว่าอึดจริง ตัวเครื่องสามารถเล่นเกม ดูหนัง ไถ่หน้า FB ได้ยาว ๆ ทั้งวัน หากไม่ใช้งานหนัก ๆ ก็อยู่ได้ถึง 2 วัน อีกทั้งตัวเครื่องยังมีฟีเจอร์ช่วยบริการจัดการพลังงาน ให้ยืดอายุการใช้งานแบตฯ ได้นานขึ้นอีกด้วย
ทีเด็ดอีกอย่างของ Huawei Y9s คือระบบสแกนลายนิ้วมือจากปุ่ม Power ที่ตอบสนองได้ไวดี ส่วนนี้จากใจเลย หากเทียบกับสมาร์ทโฟนที่มีช่องสแกนลายนิ้วมือหลังเครื่อง หรือปุ่ม Home (ไม่ก็หน้าจอ) ยังไงผมก็ชอบสแกนลายนิ้วมือจากปุ่ม Power มากสุดจริง ๆ
เทสระบบสแกนลายนิ้วมือของ Huawei Y9s
ประสิทธิภาพ
ขุมพลังของ Huawei Y9s คือ Hisilicon Kirin 710F เป็นซีพียู 8 Core สำหรับใช้ในสมาร์ทโฟนระดับกลาง-ล่าง ของ Huawei พร้อมการ์ดจอ (มะลิ) Mali-G51 MP4 เจ้าเก่า แต่รอบนี้มีแรมเพิ่มเป็น 6GB + รอม 128GB
ลองจับเทสด้วย Antutu ก็ได้คะแนนไป 181,390 แรงพอ ๆ กับ Samsung S7 Edge สมัยนู้น หรือ Exynos 9611 ใน Samsung A51 ณ ปัจจุบัน ส่วนคะแนนอ่านเขียนของรอม 128GB ก็ได้ไป 827.68 MB/s สำหรับอ่าน และ 193.77 MB/s สำหรับเขียน
เทสเกม Honkai Impact 3 บน Huawei Y9s
เทสเกม Call of Duty: Mobile บน Huawei Y9s
กล้องหลัง
สำหรับใครที่กำลังเล็งตัว Huawei Y7p อยู่ ลองดูจากรีวิวนี้ได้เลย สืบเนื่องจากตัว Huawei Y9s มีกล้องหลัง 3 ตัวแบบเดียวกันกับ Huawei Y7p เป๊ะ ๆ แบ่งเป็น เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F/1.8 เลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล F/2.4 และ Depth Sensor หรือเลนส์ถ่ายชัดลึก 2 ล้านพิกเซล F/2.4
หน้า UI ควบคุมกล้องที่ปรับใหม่ ให้ใช้งานง่ายขึ้น
ส่วนการสลับเลนส์กล้องระหว่าง 48 ล้านพิกเซลของเลนส์หลัก กับ 8 ล้านพิกเซลของเลนส์มุมกว้าง สามารถจิ้มเพื่อเปลี่ยนได้ทันที หากแต่จากที่ลองใช้ กลับมีจิ้มติดบางไม่ติดบ้าง ยังไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร
ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง
ทุกภาพถ่ายโดยกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล พร้อมกด Auto ปิด AI ไม่ปรับอะไรทั้งสิ้น
เปรียบเทียบภาพจากเลนส์หลัก (ซ้าย) และเลนส์มุมกว้าง (ขวา)
เปรียบเทียบภาพจากระยะปกติ (ซ้าย) และซูมจนสุด (ขวา)
ตัวอย่างภาพถ่ายกลางคืน
กล้องหน้า
ลองเทสกล้องหน้าแบบ Pop-Up ความละเอียด 16 F/2.2 พร้อมเปิดโหมดถ่ายภาพบุคคล
ตัวอย่างภาพที่ได้
สรุป
ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง ในราคาไม่เกินหมื่นที่คุ้มค่ารุนหนึ่งเลย ตัว Huawei Y9s มีจุดเด่นใหญ่ ๆ ห้าจุดด้วยกันอาทิ จอ 6.59 นิ้วแบบเต็มตา (ไม่มีรูกล้องหน้า), กล้องหลัง 3 ตัว พร้อมความละเอียดสูง 48 ล้านพิเซล (เลนส์หลัก), มาพร้อมแรม 6GB + รอม 128GB, แบตฯ อึดจริง และสุดท้ายคือราคาไม่เกินหมื่นนี้เอง ซึ่งตัว Huawei Y9s ก็เปิดราคาที่ 7,990 บาท เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตัวเครื่องใช้ Hisilicon Kirin 710F ซึ่งถือเป็นซีพียูที่พอใช้งานได้ ยังไม่ได้แรงจนเล่นเกมได้ลื่นหมด จากที่ลองเทส บางเกมที่กินสเปกหนัก ๆ ยังต้องปรับการแสดงผลให้ตกลงมา ถึงจะได้เล่นได้ลื่น ๆ แต่นอกนั้นตัว Huawei Y9s นับว่าดีงามตามราคาเลยครับ