รีวิว BenQ Zowie XL2566K จอเกมมิ่งที่เกิดมาเพื่อนักแข่ง E-Sport

Commart รีวิวครั้งนี้ เราอยู่กับ BenQ ZOWIE XL2566K 360 Hz จอเล่นเกมที่ออกแบบมาสำหรับนักแข่ง E-Sport  โดยเฉพาะ หลายคนอาจงงว่า เฮ้ย ! แล้วระหว่างจอเล่นเกม กับจอสำหรับนักแข่งเกม มันต่างกันยังไง  ใช้ด้วยกันได้ไหม จำเป็นต้องแยกหรือเปล่า แล้วมันต่างกันขนาดไหน รีวิวนี้ มีคำตอบ ใครอยากรู้ ไปดูกันเลยยย

Key Feature 

  • BenQ ZOWIE XL2566K  หน้าจอขนาด 24.5 นิ้ว มาพร้อมค่ารีเฟรชเรทที่ 360 Hz
  • ฐานวางออกแบบให้เหมาะกับการวางคีย์บอร์และเมาส์ที่ไม่เหมือนการใช้งานทั่วไป
  • มาพร้อมพาเนล TN ช่วยดันค่ารีเฟรชเรทได้มากถึง  360 Hz และค่าการตอบสนองที่ 0.5 มิลลิวินาที
  • จอปรับสูงต่ำได้ ปรับมุมเงยมุมก้มได้ หมุนจอได้ 180 องศา
  • มีเทคโนโลยี DyAc+ ช่วยลดการสั่นไหวของภาพในขณะเล่นเกม
  • รองรับการใช้งาน Adaptive Sync 
  • ราคา 26,900 บาท 

ปัจจุบัน เราสามารถหาซื้อจอเกมมิ่งได้ง่ายขึ้น ราคาก็ถูกลงมาก มีให้เลือกตั้งแต่ 120 Hz ไปจนถึง 360 Hz เลย  หลายคนอาจมองว่า แค่มี Hz สูง ๆ ก็เข้าขั้นเป็นจอเกมมิ่งได้แล้ว แต่ในการเล่นเกมแบบจริงจัง โดยเฉพาะกับการแข่งขัน E-Sport ตัวเลือก Hz อาจไม่เพียงพอสำหรับนักแข่งที่ต้องเน้นในเรื่องของ Hz ที่ตรงและแม่นยำ  ไม่ใช่ค่า Hz ที่ถูกดันให้สูงผ่านซอฟต์แวร์หรือโอเวอร์คล็อคมา  ต้องมีค่าการตอบสนองที่ต่ำมาก ๆ รวมทั้งการออกแบบที่ช่วยเพิ่มสมาธิในการเล่นมากขึ้น

ซึ่งเจ้า ZOWIE XL2566K ตัวนี้ให้ค่าการตอบสนองที่ 0.5 มิลลิวินาทีเท่านั้น จอเกมมิ่งทั่วไป จะอยู่ 1 มิลลิวินาที  อันนี้ต้องยอมรับว่าโครตไว ก่อนจะถึงไปรายละเอียดอื่น ๆ  เรามาดูอุปกรณ์ที่มาให้ในกล่องกันก่อน ว่ามีอะไรบ้าง

 

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ฐานวางจอ
  • ขาตั้งจอ
  • สาย HDMI กับ Display Port อย่างละเส้น
  • มี Switch คอนโทรลเลอร์
  • ผ้าคลุมจอ
  • Shielding hood หรือที่บังจอจำนวน 2 ชิ้น
  • จอ Benq ZOWIE รุ่น XL2566K

ดีไซน์และการออกแบบ

ทีนี้ ทำไม BenQ ถึงกล้าเคลมว่ามันเป็นจอสำหรับ E-Sport… ส่วนใหญ่แล้ว นักแข่งเขาจะไม่ได้วางคีย์กับเมาส์เหมือนคนทั่วไป เพราะเค้าต้องเอาจอเข้ามาใกล้ตัวมาก ใกล้ว่าการใช้งานของคนทั่วไป เพื่อให้สามารถมองเห็นรายละเอียดและภาพรวมที่ชัดเจน จึงต้องออกแบบฐานจอให้เล็ก ๆ มีการตัดขอบโค้งมนต่าง ๆ ให้วางคีย์บอร์ดกับเมาส์ในแบบที่ต้องการได้

จากรูปด้านบน จะเห็นถึงการออกแบบดีไซน์ในจอรุ่นเก่า และรุ่นใหม่คือ XL2566K  ฐานของจอภาพได้รับการออกแบบให้ใช้พื้นที่น้อยลง ช่วยให้นักแข่งมีพื้นที่มากขึ้นในการวางเมาส์และคีย์บอร์ดตามสไตล์ที่ตัวเองถนัด  ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการแข่งขัน

ที่ฐานของจอด่านล่าง มีลูกศรที่ช่วยให้เราจำตำแหน่งว่าเราหมุนไปทิศทางไหน ระดับเท่าใด และด้านหลังจอยังมีมาร์คที่คอยช่วยเราจำว่า เราใช้จอความสูงเท่าไหน ที่เล่นระดับนี้แล้วไม่ปวดคอ ปวดหลัง ซึ่งมันช่วยได้มากจริง ๆ  สำหรับที่ต้องการความเป๊ะ (ใครเคยเป็นจะเข้าใจ รู้สึกหงุดหงิดเวลามีใครมาหมุนจอหรือปรับจอขึ้นหรือลง ฮ่า ๆ )

หลายคนอาจงงว่า ทำไมจอตัวนี้ ดีไซน์ขอบจอหนามาเชียว ขัดกับเทรนด์จอปัจจุบันที่เน้นไร้ขอบใช่ไหม  บางคนถึงขั้นว่ามันดูโบราณไปไหม ?  อย่าเพิ่งมูลี่ เอ้ย บูลี่นะ  อันนี้เขามีเหตุผลอยู่และมันก็ใช้ได้จริงด้วย  เพราะต้องการให้นักแข่งมีสมาธิจดจ่อกับจอได้มากขึ้น  ลองนึกถึงกรอบรูป เวลามีกรอบ เราจะโฟกัสภาพตรงกลางแบบอัตโนมัติเลย

ZOWIE เชื่อว่าการมีขอบ จะทำให้เราโฟกัสแต่จุดกลาง ซึ่งมันก็ช่วยได้จริง แถมยังมีที่บังจอด้านข้างมาให้ ช่วยให้เพิ่มสมาธิเข้าไปอีกขั้นเลย นอกจากนี้ ยังมีที่แขวนหูฟังด้านหลังด้วยนะ นับว่า ZOWIE เขาใส่เข้าใจเกมเมอร์สุด ๆ เลย

ปุ่มควบคุม

ความพิเศษของ BenQ ZOWIE XL2566K คือมีปุ่มควบคุมได้สองแบบ ด้านหลังจอด้านขวา  จะมีปุ่มที่ใช้เปิด-ปิดจอ  ถัดมาคือปุ่มจอยสติ๊กหรือปุ่ม All – in – One ซึ่งเราสามารถปรับตั้งค่าต่าง ๆ ทั้งหมดของจอผ่านปุ่มนี้ได้เลย  แต่ส่วนตัวยอมรับว่ามีอดีตไม่ดีกับปุ่มแบบจอยสติ๊กเท่าไหร่ครับ แต่หลังจากทดลองใช้ของ Zowie รุ่นนี้อย่างหนักหน่วง ก็นับว่าพอใจระดับนึงเลย  ถัดมาคือปุ่มเลข 1 คือปุ่มคีย์เลือกโปรไฟล์เบื้องต้น และเลข 2 คือปุ่มลัดสำหรับเลือกพอร์ตที่เชื่อมต่อกับจอ (บางคนเสียบจอกับคอม พร้อมกับ Game Console เนอะ ก็เปลี่ยนตรงนี้ง่าย ๆ )

ถัดมาคือตัว Switch ที่ให้เราไม่ต้องเอื้อมมือไปปรับด้านหลังจอ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ปุ่มสีแดงทำหน้าที่คล้ายกับปุ่มจอยสติ๊กด้านหลัง มีปุ่มย้อนกลับ แล้วก็ปุ่มโปรไฟล์ที่ให้เราเซ็ตได้ถึง 3 โปรไฟล์ เช่น หากต้องการหากเล่น FPS  เราต้องตั้งค่าสีให้สดที่สุด จากนั้นก็กดเซฟที่เลข 1 แต่หากต้องการเล่นเกมผี ๆ ที่ต้องการสีสว่าง ๆ  ก็ตั้งโปรไฟล์ไว้ที่เลข 2 เวลาเปลี่ยนเกมเล่นก็แค่กดที่ตัวเลข ไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าจอใหม่ให้ยุ่งยากครับ

เมนูการใช้งาน

แนะนำเมนูการใช้งาน การเริ่มต้นใช้งานจะต้องกดปุ่มจอยสติ๊กด้านหลังตัวเครื่องหรือกดตัวที่ Swithch ก็ได้ครับ เวลากดก็จะมีเสียงสัญญาณเตือนว่าเราได้กดปุ่ม  ซึ่งก็แปลกดี จอทั่วไปไม่ค่อยมีนะ  ในหน้าเมนูก็จะมีเมนูหลักมีการปรับค่าต่าง ๆ มากมายที่จำเป็นเช่น การปรับ  Black eQualizer (ปรับเพิ่มความสว่าง เหมาะกับเกมมืด ๆ )  ,  LowBlue Light (การลดแสงสีฟ้า )  , Color Vibrance (เพิ่ม-ลดอุณหภูมิของภาพ )

จากภาพด้านบน จะเป็นหน้าเมนูเริ่มต้น  ซึ่งมีตัวเลือกให้เข้าหน้าเมนูย่อย ถัดมาคือเลือก มีโหมดให้เลือกมากมายทั้ง FPS , Gamer , Movie แล้วก็โหมด Standard  อันต่อไปเป็น การเปิด – ปิด เทคโนโลยี DyAc+ เป็นการเปิดใช้งานโหมดลดการสั่นไหวของภาพ   ต่อมาคือการ ปรับค่าความสว่างหรือ Brightness  สุดท้าย  Black equalizer ที่ช่วยปรับความสว่างเวลาเล่นเกมมืด ๆ เช่นเล่นเกมผี ที่จะทำให้จุดมืด สว่างขึ้นมา ช่วยลดความน่ากลัวได้อีกเยอะเลย  และจอนี้ยังรองรับกับ Adaptive Sync  ด้วยครับ

พาเนลของจอ

ในส่วนของพาเนล เขาให้มาเป็น TN  บางคนอาจสงสัยว่า ทำไมถึงเป็นพาเนล TN ทั้ง ๆ ที่คู่แข่งไป IPS กันหมดแล้ว อันนี้ต้องบอกตรง ๆ ว่า TN ยังให้ประสิทธิภาพและค่า Refresh Rate ที่ตรงและสูง รวมทั้งยังมีค่าการตอบสนองที่รวดเร็วกว่าพาเนลอื่น ๆ อย่าง IPS และ VA

แต่จอ TN อาจมีข้อด้วยเวลามองข้าง ๆ แล้วสีจะเพี้ยน  ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาเลย เพราะเวลาเล่นเกม  คงไม่มีใครมองข้างจอเล่นเนอะ เราก็มองตรง ๆ กันหมด อีกอย่างคือเรื่องของความคมชัด ซึ่งปัจจุบัน ต้องยอมรับความคมชัดของจอ TN ยังทำได้สูงสุดแค่ Full HD เท่านั้น ในขณะที่ IPS ที่นั้นทำได้ 2K หรือ 4K ครับ  ซึ่งเราก็ต้องยอมแลกมาเพื่อให้ได้ Refresh Rate และ Response time ที่สูงมาก ๆ นั่นเอง

พอร์ต

จอมาพร้อมกับ HDMI 2 Port   และ Display port 1 ช่อง หากต้องการใช้ 360 Hz ต้องเสียบเฉพาะ Display Port เท่านั้น   ช่องเสียบ Control Switch และช่องสำหรับเสียบหูฟัง 3.5 mm

DyAc+ เทคโนโลยีลดภาพสั่น ลิขสิทธิ์เฉพาะของทาง ZOWIE 

DyAc+ เป็นเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ที่เหมือนจะมีเฉพาะกับจอ Benq ZOWIE ที่เป็นพาแนล TN เท่านั้นนะ ซึ่งมันจะช่วยลดการสั่นไหวของภาพในขณะเล่นเกม ช่วยทำให้เส้นขอบของภาพเคลื่อนไหวโดยรวมที่คมชัดและชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยให้เรามีสมาธิและมีสิ่งรบกวนน้อยลงจากภาพอื่น ๆ ที่ไม่ได้ต้องการให้เคลื่อนไหวในเกม เช่น เส้นฉาก หรือ ขอบฉากต่าง ๆ

จากที่ในเห็นในวีดีโอ เราจะเห็นว่า ระหว่างการเปิด DyAc+ และการปิด จะเห็นถึงความแตกต่างที่ช่วยลดภาพเบลอ ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อเราเห็นภาพที่ชัดเจน การตอบสนองของผู้เล่นก็จะทำได้ดีขึ้นครับ

XL Setting to Share

อีกจุดหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้ว่า ทำไม Benq ZOWIE  ถึงได้มั่นใจว่าเป็นจอสำหรับ E-Sport นั่นคือเขามีการใช้ซอฟต์แวร์การแสดงผลภาพชื่อว่า XL Setting to Share ที่ช่วยให้เราใช้โปรไฟล์การปรับแสงที่ถูกคิดมาแล้วว่า เหมาะกับเกมนั้น ๆ อย่างยิ่ง ตัวอย่างการใช้งาน ให้เราเซิร์ตว่า XL Setting to Share ไปโหลดมาแล้วเปิดรอไว้ ซึ่งโปรแกรมจะมีหน้าตาตามรูปด้านบนครับ

จากนั้นให้เราเข้าไปที่เว็บ ZOWIE อีกครั้ง กดค้นหาคำว่า Color Mode แล้วไปโหลดโปรไฟล์การตั้งค่าแสงของแต่ละเกมมา ซึ่งก็มีเกมฮิต ๆ ให้เลือกเยอะเลย เมื่อโหลดมาแล้ว กดที่เครื่องหมายบวกในโปรแกรม XL Setting แล้วกดเลือกโปรไฟล์ที่เราต้องการ  เท่านี้ เวลาที่เราจะเล่นเกมไหน เราก็สามารถกดเลือกโปรไฟล์การตั้งสีจอ ที่ถูกออกแบบโดยทีมของ ZOWIE แล้วครับ (ลองแล้วแหล่มนะ)

ทั้งนี้ นอกจากจะมีโปรไฟล์การตั้งค่าแสงของแต่ละเกมแล้ว เรายังสามารถแบ่งปันการตั้งค่าหน้าจอของเราให้กับเพื่อน ๆ หรือคนอื่นๆ ผ่าน XL Setting to Share ได้ง่าย ๆ ครับ

ตัวอย่างการปรับแสงภาพ ใน XL Seting to share

 

สรุป

จอ Benq  ZOWIE XL2566K มาพร้อมค่า Refresh ที่ 360 Hz และการค่าการตอบสนองที่ 0.5 มิลลิเซคเท่านั้น อันนี้ต้องชมว่าโครตไว  ตัวจอเป็นมีขนาด 24.5 นิ้ว ไม่เล็ก ไม่ใหญ่เกินไป ให้มาเป็นพาเนล TN เหตุผลว่าทำไมถึงเป็น TN เราได้บอกไปแล้วว่า เพื่อช่วยให้ดันค่า Refresh Rate และค่าการตอบสนองได้เร็วกว่าจอพาเนลอื่น  แต่ต้องยอมรับว่าพอเป็น TN ความคมชัดจะทำได้สูงสุดเพียง Full HD เท่านั้น ซึ่งอันนี้เป็นข้อจำกัดของพาเนล TN ครับ

ในเรื่องของออปชั่นที่มีมาให้ ก็สมกับความเป็นเกมเมอร์ ทั้งตัว Switching ที่ปรับโปรไฟล์ภาพผ่านการกดเพียงครั้งเดียว สามารถตั้งได้ถึง 3 โปรไฟล์ และมีโหมดให้เลือกใช้งานถึง 8 โหมด รวมทั้งยังมีที่บังจอทั้งสองด้าน ช่วยเพิ่มสมาธิ ใครไม่ชอบ ก็ถอดออกได้ แต่ผมชอบนะ   มาพร้อมที่แขวนหูฟังที่ซ่อนอยู่ด้านหลัง ยอมรับว่า มีประโยชน์มาก

ในเรื่องการปรับองศา จอปรับสูงต่ำได้ ปรับมุมเงยมุมต่ำได้ หมุนจอได้ 180 องศา รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ

มีพอร์ต HDMI ให้ 2 Port และ Display Port 1 ช่อง รวมทั้งช่องเสียบตัว Switch ซึ่งก็ครบถ้วน สำหรับการ Swith จอไปใช้คอมหรือ Game Concole

มีฟีเจอร์ Color Vibrance ปรับอุณหภูมิของสี และ Black eQualizer ช่วยเพิ่มความสว่างของเกมมืด ๆ และเทคโนโลยี DyAc+ การลดภาพความสั่นไหว ลิขสิทธิ์เฉพาะจากทาง ZOWIE

หน้าจอดีไซน์ให้มีขอบจอหนา ซึ่งอาจจะขัดใจบางคน แต่เหตุของเขาคือมองว่า จะช่วยเพิ่มสมาธิให้กับการเล่นเกมได้มากขึ้น แต่หากใครไม่ชอบจริง ๆ BenQ ยังมีจอรุ่นอเนกประสงค์ในซีรีย์ BenQ MOBIUZ  ซึ่งจะมาพร้อมพาเนล IPS และขอบจอที่บางกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่า Refresh rate และค่าการตอบสนองที่ต่ำกว่า รวมทั้งยังไม่มีเทคโนโลยี DyAc+ ด้วย อันนี้ อยู่ที่คุณเลือกแล้วล่ะ

Benq ZOWIE XL2566K สนนราคาอยู่ที่ 26,900 บาท  ทั้งนี้ ขอขอบคุณทาง BenQ ที่ให้จอเรามารีวิวด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าเราจะมีรีวิวอะไรกัน ติดตามที่เว็บไซต์ Commart ได้เลยครับ

แชร์ :
Follow us
Most popular
Category
Tag

Relate Article