รีวิว : ASUS Gaming Gear Set ครบเช็ต ROG เกมมิ่งเกียร์สายโปร

หากใครมีเกมมิ่งเกียร์เซ็ตเดียวกัน หรือแบรนด์เดียวกัน สิ่งแรกที่เห็นก่อนเลย คงเป็น ‘ความเข้ากันได้’ บ่งบอกความเป็นสาวกได้เป็นอย่างดี และยังมีอีกข้อดีสำคัญ นั้นคือ ‘การตั้งค่าใช้งานต่าง ๆ ที่ทำได้ในที่เดียว’ รีวิวนี้พบกับ ASUS Gaming Gear Set ครบเช็ต Republic Of Gamers หรือ ROG ซีรีส์เกมมิ่งเกียร์ยอดนิยม โดยเฉพาะเหล่าโปรเกมเมอร์ โดยครั้งนี้ก็ขนมาทั้ง ASUS ROG Scabbard , ASUS ROG Strix Scope NX Wireless Deluxe , ASUS ROG Strix Impact III และ ASUS ROG Fusion II 300 พร้อมด้วยชุด Desktop PC ขั้นเทพจาก ASUS ที่จะมาช่วยชูโรงรีวิวเช็ตเกมมิ่งเกียร์ในครั้งนี้ โดยแต่ละตัวจะเป็นอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันเลย

รู้จักกับ ROG

ย้อนกลับไปในปี 2006 ทาง ASUS บริษัทผู้ผลิตฮาร์ดแวร์คอมฯ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชื่อดังจากไต้หวัน ได้เปิดตัวแบรนด์ลูกอย่าง Republic Of Gamers (ROG) โดยชูเลยว่าเป็นแบรนด์ที่เน้นอุปกรณ์สำหรับเกมมิ่งระดับ Hi-End และกลายเป็นแบรนด์ที่ติดอันดับมาจนทุกวันนี้ ในช่วงหลัง ๆ ASUS ได้เริ่มเปิดตัวอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ของตัวเอง ภายใต้ชื่อ ROG ซึ่งก็ยังไม่ทิ้งความเป็น Hi-End ทั้งงานออกแบบและประสิทธิภาพการใช้งาน ทำให้ชื่อของ ROG ยิ่งกลายเป็นที่รู้จักยิ่งขึ้นไปอีก  

สำหรับรีวิวนี้ ก็จะพามารู้จักกับแบรนด์ ASUS ROG ให้มากยิ่งขึ้น โดยผ่านเหล่าเกมมิ่งเกียร์รุ่นเด่นทั้ง 4 อาทิ ASUS ROG Scabbard แผ่นรองเมาส์กันน้ำกันคราบ ASUS ROG Strix Scope NX Wireless Deluxe คียบอร์ดเกมมิ่งไร้สาย ASUS ROG Strix Impact III เมาส์เกมมิ่งน้ำหนักเบา และ ASUS ROG Fusion II 300 หูฟังเกมมิ่งสุดเท่

ASUS ROG Scabbard

ประเดิมด้วย ASUS ROG Scabbard แผ่นรองเมาส์กันน้ำกันคราบ มาพร้อมขนาดใหญ่ ระดับคลุมได้เกือบทั้งโต๊ะ 

แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่จนเกือบคลุมทั้งโต๊ะนี้เอง ทำให้ทาง ASUS คิดค้นแผ่นรองเมาส์แบบพิเศษ ที่ทนทานต่อน้ำกระเซ็นหรือคราบต่าง ๆ ได้ดี เชื่อว่าไม่มากก็น้อย คงมีคนนำของกินมากินหน้าจอคอมฯ และคงเลี่ยงไม่ได้ที่เศษอาหารเหล่านั้น จะตกลงไปในแผ่นรองเมาส์ 

แต่สำหรับตัว ROG Scabbard สามารถใช้ผ้าเช็คทำความสะอาดได้ง่าย ๆ หรือจะชุบน้ำเช็ดก็ยังได้ เนื่องด้วยตัวแผ่นรองเมาส์ ผลิตจากผ้า Cordura® Lite ที่ทนทาน กันน้ำกระเซ็น และกันคราบ ได้เป็นอย่างดีนี้เอง และยังทนทาน โดยแม้มีการใช้งานนาน ๆ หรือมีการเช็คทำความสะอาดหลายครั้ง ตัวแผ่นรองเมาส์ก็ยังคงสภาพเดิมได้ยาว ๆ จากการใช้งาน ก็ยอมรับเลยว่าตัวผิวสัมผัส ให้ความรู้สึกในการเลื่อนเมาส์ไปมาได้ดีมาก ไม่มีการติดขัดหรือฝืดเลย แต่ก็ยังไม่ลื่นไหลจนเกินไปเช่นกัน ช่วยให้ทำควบคุมเมาส์ได้ดียิ่งขึ้น

ปัจจุบันตัว ROG Scabbard มีรุ่นที่สองแล้วอย่าง ROG Scabbard II และยังมีรุ่นพิเศษอย่าง ROG Scabbard II EVA Edition ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทั้ง NERV และ EVA เคลือบนาโนบนพื้นผิวที่ช่วยให้กันน้ำ น้ำมัน และฝุ่นได้ด้วย 

ASUS ROG Strix Scope NX Wireless Deluxe

ASUS ROG Strix Scope NX Wireless Deluxe คียบอร์ดเกมมิ่ง พร้อมรองรับการใช้งานแบบไร้สายได้ ต้องบอกเลยว่า หากเป็นเมื่อก่อน ยากที่จะเห็นคียบอร์ดเกมมิ่งที่ใช้งานแบบไร้สายได้ แต่ปัจจุบันเรามี Wireless 2.4GHz เทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่มีความแม่นยำ และรองรับการตอบสนองได้ดีขึ้น และออกมาเป็นคียบอร์ดเกมมิ่งดีไซน์เท่ตัวนี้เอง โดยหน้าตาก็คงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก มองไกล ๆ ก็ยังหล่อเท่ และด้วยวัสดุตัวคียบอร์ดที่เป็นอลูมิเนียมทั้งตัว ยิ่งช่วยเพิ่มทั้งความหล่อ และความแข็งแรงด้วย

ทั้งนี้ตัวคีย์บอร์ดยังเป็น Mechanical ที่มาพร้อม Switch หรือปุ่มกดเฉพาะตัวอย่าง ROG NX Red Switch ที่ให้สัมผัสการกดแบบ Linear ใช้แรงกดปบบจังหวะเดียว ช่วยตอบสนองการกดได้ไว เหมาะสำหรับเล่นเกมแนว Moba ที่ต้องใช้ปุ่มกดหลาย ๆ ปุ่มนั้นเอง

สำหรับตัว ROG Strix Scope NX Wireless Deluxe ตามชื่อเลย รองรับการใช้งานแบบไร้สายได้ โดยมีระบบการใช้งานแบบไร้สายให้เลือก 2 แบบ อาทิ Bluetooth 5.2 และ Wireless 2.4GHz ซึ่งหากใครต้องการความเสถียร ก็แนะนำเชื่อมต่อผ่าน Wireless 2.4GHz  โดยนำตัวรับสัญญาณ ไปต่อในช่อง USB-A ที่เครื่อง PC ได้

แม้ใช้งานแบบไร้สายได้ แต่ก็ยังไม่ทิ้งไฟ RGB ที่มีลวดลายให้เลือกใช้เพียบ และส่องสว่างได้อลังการพอควร แต่ก็แลกกับใช้งานพลังงานพอควรด้วยเช่นกัน หากใช้งานไร้สาย พร้อมเปิดไฟ RGB แบบจัดเต็มไปด้วย ก็ควรหมั่นเสียบสายชาร์จไว้เลย

สุดท้ายตัวคียบอร์ด ก็มาพร้อมที่รองข้อมือให้ในกล่อง สามารถนำมาติดกัน (ผ่านแม่เหล็ก) เพื่อใช้งานแบบ Full Option ได้ หรือจะถอดออกเพื่อประหยัดพื้นที่ก็ได้ตามใจเรา

ASUS ROG Strix Impact III

เมาส์เกมมิ่งน้ำหนักเบา ที่สาย “ตวัด” เมาส์อาจชอบ ASUS ROG Strix Impact III ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ พร้อมน้ำหนักที่เบาเพียง 59 กรัมเท่านั้น

ตัวเมาส์อาจเรียกได้เลยว่า ดีไซน์มาเพื่อโปรเกมเมอร์โดยแท้ ซึ่งนอกจากจะมีน้ำหนักที่เบาแล้ว ก็ยังมีส่วนที่น่าสนใจอย่าง เซ็นเซอร์ความเร็วสูงสุด 12,000 dpi มีค่าเบี่ยงเบนต่ำเพียง 1% และตัวผิวสัมผัสของตัวเมาส์ ที่ยึดเกาะและทนทาน แน่นอนว่ามีไฟ RGB ด้วย

ปุ่มปรับค่า DPI อยู่ใต้เมาส์ อาจต้องเลือกเลยว่า จะใช้ค่า DPI ที่เท่าไร ถ้ามาปรับกลางเกมคงไม่ทันการ

การใช้งานโดยรวม ด้านน้ำหนักคือเบาจริง สายเชื่อมต่อบอกว่าใช้เชือกมาทำก็เชื่อจริง ๆ นะเออ คือไม่พันกันง่าย ๆ หรือสายที่เกิดการ ‘ตึง’ จนลอยเกะกะไปมาแน่นอน 

ASUS ROG Fusion II 300

ปิดท้ายด้วย ASUS ROG Fusion II 300 หูฟังเกมมิ่ง ที่มาพร้อม DAC หรือชิปช่วยขยายเสียงให้ในตัวเลย  

แสงสี RGB ยังคงจัดเต็มตามสไตล์ ROG

ตัวสายเชื่อมต่อเป็นแบบ USB-C แต่ก็มีหัวแปลงเป็น USB-A ให้

สำหรับตัวชิปก็ใช้เป็นตัว ESS 9280 Quad DAC พร้อมกับไดรเวอร์ ASUS Essence ขนาด 50 มม ถือว่าใหญ่ใช่เล่น ซึ่งก็ให้พลังเสียงได้สะใจพอควร อีกทั้งยังมีเซอร์ราวด์ 7.1 แบบเสมือนจริงให้ด้วย

Armoury Crate รวมการตั้งค่าในหนึ่งเดียว

มาถึงไฮไลท์ของรีวิวนี้แล้ว อย่างที่เกริ่นไปตอนแรก หากใช้เกมมิ่งเกียร์เช็ตเดียวกัน ก็สามารถตั้งใช้งานร่วมกันได้ ซึ่งสำหรับเกมมิ่งเกียร์จาก ASUS ROG ก็รองรับการใช้งานผ่านโปรแกรม Armoury Crate นี้เอง

โดยตัวโปรแกรมนี้ ปกติใช้สำหรับควบคุมหรือปรับจูนตัวเครื่อง Desktop PC หรือโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจาก ASUS โดยเฉพาะ แต่ก็สามารถนำมาใช้กับเกมมิ่งเกียร์ได้เช่นกัน โดยสามารถดูหน้าอัปเดตและเลือกการตั้งค่าแบบแยกอุปกรณ์ตัวนั้น ๆ ได้เลย

หน้าตั้งค่าตัว ASUS ROG Strix Scope NX Wireless Deluxe 

หน้าตั้งค่าตัวเมาส์ ASUS ROG Strix Impact III 

และหน้าตั้งค่าตัวหูฟัง ASUS ROG Fusion II 300

AURA SYNC ควบคุมแสงสี RGB ได้ดั่งใจ

อีกหนึ่งไฮไลท์ นั้นคือการตั้งค่าแสงสี RGB ของตัวอุปกรณ์ ASUS ROG ทั้งหมด ก็ทำได้ผ่าน Armoury Crate ด้วย 

กดเลือกอุปกรณ์ที่ต้องการ Sync

จากนั้นก็เลือกเอฟเฟคไฟ RGB ตามที่ต้องการ

อยากได้แสงไฟแบบไหนทั้งหมด ก็ได้เลือกตามใจชอบ

ใครอยากรู้ว่าตัวเครื่อง Desktop PC ที่นำมาเป็นหลังฉากนี้มีสเปกอะไรบ้าง ก็ดูได้ตามนี้เลย

  • Monitor : ASUS ROG SWIFT PG279QM 27″
  • CPU : Intel Core i7-13700K
  • MOTHERBOARD : ASUS ROG MAXINUS Z790 HERO
  • MEMORY : KINGSTON FURY BEAST DDR5 RGB 32GB (16×2)
  • GRAPHIC CARD : ASUS TUF Gaming GeForce RTX 4090 OC Edition 24GB GDDR6X
  • STORAGE : HIKVISION E2000 512GB PCIe NVMe M.2 2280 
  • PSU :  ASUS ROG THOR GAMING 1000W 80 PLUS PLATINUM 
  • CASE : ASUS ROG STRIX HELIOS
  • CPU COOLER :  ASUS ROG STRIX LC II 360 ARGB

สรุป

Shops
แชร์ :
review
  • วัสดุ / การออกแบบ
    (5)
  • สเปค / ฟีเจอร์
    (4.5)
  • ราคา / ความคุ้มค่า
    (4.5)
4.7

Summary

จากรีวิวนี้ ก็น่าจะได้เห็นข้อดีของการใช้กมมิ่งเกียร์เซ็ตเดียวกันอยู่ไม่น้อยแน่ เพราะนอกจากจะมีดีไซน์ที่เข้าคู่กันแล้ว การจัดการดูหรือตั้งค่าต่าง ๆ ก็ทำได้อย่างง่าย ๆ โดยผ่านซอฟต์แวร์เพียงตัวเดียวเท่านั้น จะเซ็ตปุ่มลัด ปรับค่าต่าง ๆ หรือเลือกเอฟเฟคไฟ RGB ก็ได้ทันที และตัวชูโรงก็ไม่พ้น Aura Sync ที่ทำหน้าที่ได้อย่างงาม ช่วยให้ผู้ปรับแต่งแสงสีได้ตามใจเราโดยแท้ เพราะทุกอย่างมันไปด้วยกันหมด

สำหรับดีไซน์ คือสวยหล่อแน่นอน ส่วนประสิทธิภาพ ถือว่าดีทุกรุ่น แต่ก็ยังมีรุ่นภาคต่อที่ดียิ่งกว่านี้ โดยตัวที่ยอมรับเลยว่า ‘สุดแล้ว’ ก็มีเฉพาะตัวคียบอร์ด ROG Strix Scope NX Wireless Deluxe ส่วนตัวหูฟัง ROG Fusion II 300 กับแผ่นรองเมาส์ ROG Scabbard และเมาส์ ROG Strix Impact III มันยังมีรุ่นที่สุดกว่านี้มาก 

ท้ายนี้ราคาของตัว ASUS ROG Gaming Gear Set ทั้ง 4 ก็มีตามนี้ 

  • ASUS ROG Scabbard ราคา 1,590 บาท
  • ASUS ROG Strix Scope NX Wireless Deluxe ราคา 4,990 บาท
  • ASUS ROG Strix Impact III ราคา 1,690 บาท
  • ASUS ROG Fusion II 300 ราคา 3,890 บาท
Comments Rating 0 (0 reviews)

Leave a Reply

User Review
  • วัสดุ / การออกแบบ
    Sending
  • สเปค / ฟีเจอร์
    Sending
  • ราคา / ความคุ้มค่า
    Sending

Follow us
Most popular
Category
Tag

Relate Article