ปัญหาสัญญาณ Wi-Fi กระจายไม่ทั่วถึง ยังคงเป็นปัญหาที่หลาย ๆ บ้านพบเจออยู่ Mesh Wi-Fi หรือเราเตอร์ที่ช่วยขยายสัญญาณ Wi-Fi ให้ครอบคลุมมากขึ้นก็ยังเป็นตัวเลือกที่แนะนำ รีวิวนี้พบกับ Deco X95 AX7800 Mesh Wi-Fi 6 System เราเตอร์ Mesh Wi-Fi ชุดใหญ่ จบในกล่องเดียว ชูประสิทธิภาพขยายสัญญาณ Wi-Fi ได้กว้างระดับ 6,100 ตารางฟุต พร้อมรองรับความเร็วได้มากถึง 7,800 Mbps เชื่อมต่อพร้อมกันได้ถึง 200 อุปกรณ์ และยังมี WAN ที่รองรับความเร็วได้ถึง 2.5 Gbps ใช้ในอนาคตได้กันยาว ๆ เลย ใช้ดีแค่ไหน ลองมาดูกันครับ
ฟีเจอร์เด่น Deco X95 AX7800 Mesh Wi-Fi 6 System
- True Tri-Band Speed – 3 ย่านความถี่ เพื่อให้ความเร็ว WiFi เร็วสูงถึง 7,800 Mbps และรองรับอุปกรณ์สูงสุดถึง 200 อุปกรณ์†
- 8 Streams, Less Lag – 4×4/HE160 4804 Mbps + 2×2/HE160 2402 Mbps + 2×2 574 Mbps
- Whole Home WiFi 6 – รองรับพื้นที่ใช้งาน 6,100 ตารางฟุต กระจายสัญญาณ WiFi แบบไม่มีสะดุด ลดปัญหาจุดอับสัญญาณและสัญญาณรบกวน†
- Up to 2.5 Gbps Wired Connections – มาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อ 2.5 Gbps 1 ช่อง + พอร์ตเชื่อมต่อกิกะบิต 2 ช่อง รองรับการส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง
- Seamless AI-Driven Mesh – ใช้งาน WiFi ชื่อและรหัสผ่านเดียว เพื่อการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดสำหรับคุณ‡
- TP-Link HomeShield – .ให้อุปกรณ์และข้อมูลของคุณปลอดภัยมากขึ้น ด้วยฟีเจอร์ช่วยป้องกันระบบเครือข่ายและอุปกรณ์ IoT ของคุณ*
- Setup Made Easier Than Ever – แอปพลิเคชัน Deco จะช่วยให้คุณตั้งค่าอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย
แกะกล่อง
ในกล่องก็ประกอบไปด้วยตัว Deco X95 สองตัว พร้อมชุดไฟเลี้ยงอย่างละตัว และสาย LAN หนึ่งเส้น สำหรับต่อ WAN กับตัวเราเตอร์ที่ใช้ประจำบ้าน
งานออกแบบ
รอบนี้ขนาดถือว่าใหญ่ระดับหนึ่งเลย เนื่องด้วยสเปกที่จัดเต็มเป็นพิเศษ แต่โดยรวมก็ยังเป็น Mesh Wi-Fi จาก Deco Series จาก TP-Link ที่เน้นสีขาวเป็นหลัก ซึ่งตัว Deco X95 ก็มาในสีขาวล้วนเลย เอาไปยังประดับเป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ของบ้านได้เนียนดีนักแล
ด้านใต้ก็มาพร้อมช่องระบายความร้อน ซึ่งมีช่องสำหรับต่อไฟเลี้ยงซ่อนอยู่ และยังมีช่องสำหรับซ่อนปุ่ม Reset ไว้ข้างใต้เช่นกัน
พอร์ตเชื่อมต่อ WAN/LAN ทั้ง 3 ช่อง จุดนี้ก็จะเห็นช่องที่รองรับความเร็ว 2.5 Gbps ชัดเจนหนึ่งช่อง หากใครสมัครเน็ตความเร็วระดับ 2,000 Mbps ก็นำสาย LAN มาต่อได้เลย หรือไม่ถึงก็สามารถต่อได้เช่นกัน อีก 2 พอร์ตที่เหลือก็เป็นพอร์ต WAN/LAN ที่รองรับความเร็ว 1 Gbps ทั้งคู่ เอาไว้สำหรับต่อ LAN กับคอมฯ ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊กได้
เทียบขนาดของตัว Deco X95 กับขนาดมือ ถือว่าใหญ่ใช่เล่นเลยครับ
ติดตั้งและใช้งาน
จุดเด่นสำคัญของ Mesh Wi-Fi คือการติดตั้งที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องตั้งค่าอะไรมากมาย และสำหรับตัว Deco X95 ยังคงทำได้ง่ายตามสไตล์ซีรีส์ Deco หรือไม่ ลองมาดูกัน รวมถึงมีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้างด้วย
เริ่มจากดาวน์โหลดและติดตั้งแอปฯ TP-Link Deco
เปิดหน้าแอปฯ แล้วเลือกตัว Deco X95 จากนั้นก็ทำตามขั้นตอน ในส่วนนี้หากมีตัวเราเตอร์มากกว่าหนึ่งตัว ลองเราได้ทำการวางตัวที่สองประจำตำแหน่งแล้ว มันจะทำการค้นหาแล้ว Add หรือเพิ่มอุปกรณ์ให้เองเลย (ถ้าไม่อยู่ห่างเกินไปหรืออยู่ในจุดที่ถูกบดบังสัญญาณ) ช่วยลดขั้นตอนการตั้งค่าไปได้พอควร
หากเชื่อมต่อทั้งสองเครื่องเรียบร้อย ก็จะเข้าสู่หน้าแรกหรือ Home Screen ที่มีบอกสถานะการเชื่อมต่อของ Deco X95 ทั้งสองไว้พร้อมสรรพ ในหน้านี้ก็จะรวบรวมการตั้งค่าที่จำเป็นไว้ให้เลย ไม่ต้องไปหาที่หน้าอื่นให้ยุ่งยาก นับเป็นข้อดีของเราเตอร์ Mesh Wi-Fi จาก TP-Link หรือซีรีส์ Deco เสมอมา
สำหรับหน้าตั้งค่าอื่น ๆ ก็จะอยู่ในส่วน ‘เพิ่มเติม’ ซึ่งก็จะมีหน้าตั้งค่าในส่วนอื่น ๆ ที่น่าสนใจทั้ง QoS กำหนดคุณภาพของประเภทการใช้งาน , รายการบล็อกอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อ , รายงานสถานะการใช้งานตัวเราเตอร์ และการแสกน ช่วยวิเคราะห์ความหนาแน่นของสัญญาณ Wi-Fi
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจใน Deco X95 เลยอย่าง การแสกนความปลอดภัย โดยสามารถแสกนความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เราอาจพลาดไปได้ทันที เช่น การอัปเดตเฟิร์มแวร์ การเข้าถึงเว็บไซต์ที่อันตราย การเปิดใช้งาน Port Forwarding และอื่น ๆ อีกมากมาย
อย่างไรก็ตามตัวฟีเจอร์แสกนความปลอดภัยจะสมบูรณ์ขึ้นได้นั้น ก็ต้องสมัครใช้บริการ HomeShield Pro ของ TP-Link เพื่อการป้องกันอย่างเต็มที่
ส่วนการตั้งค่าที่เหลือ ก็มีทั้งการเปิดปิดฟีเจอร์ NAT Forwarding , Beamforming , Fast Roaming และ Address Reservation หรือการจอง IP address ของตัวเราเตอร์
ประสิทธิภาพ
ในส่วนเทสประสิทธิภาพครั้งนี้ ก็ขอเน้นที่เรื่อง ‘ระยะ’ การปล่อยคลื่น Wi-Fi ของตัว Deco X95 โดยเฉพาะ สืบเนื่องจากตัวเครื่องชูโรงเลยว่า รองรับการปล่อยคลื่นหรือสัญญาณ Wi-Fi ได้ครอบคลุมกว่า 6,100 ตารางฟุต เดี๋ยวลองมาดูกันว่าหากอยู่ห่างจากเราเตอร์มากน้อยแค่ไหน ถึงจะส่งผลต่อความแรงของ Wi-Fi ที่ใช้งาน
รูปแบบการติดตั้งตัว Deco X95 ที่ทดสอบครั้งนี้ ก็จะวางให้ตัวเราเตอร์อยู่ตรงข้ามกัน โดยฝั่งซ้ายสุด (สีแดง) จะเป็นจุดอัปสัญญาณของบ้านเลย ลองดูว่าตัวเราเตอร์จะแก้ปัญหานี้ได้มากน้อยขนาดไหนกัน
รอบแรกก็ขอทดสอบความแรง Wi-Fi จากระยะใกล้ก่อน (ตัวหลัก) ผลก็ได้ความเร็วเต็ม ๆ ตามบริการเน็ตที่สมัครไว้อย่าง 1000/300 Mbps ผลคือได้ใกล้เคียงที่ 838/357 Mbps
ต่อไปลองมามุมซ้ายเจ้าปัญหาของบ้าน ที่ปกติสัญญาณ Wi-Fi มักจะมาไม่ถึง แต่หลังนำตัว Deco X95 มาวาง (ตัวรอง) แล้วขยายสัญญาณจากตัวหลัก ที่อยู่ฝั่งขวาของบ้าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโมเด็มเราเตอร์ ผลคือได้ความเร็วที่ 791/364 Mbps แทบไม่ต่างจากที่วัดได้ในตอนแรก หรือในระยะใกล้ของตัวหลักกันเลย
ลองท้าท้ายระยะกันหน่อย คราวนี้เดินออกมาหน้าบ้านเลย ผลคือก็ยังได้ความเร็วมากถึง 759/350 Mbps แสดงให้เห็นเลยว่าระยะสัญญาณที่เคลมไว้ ยังครอบคลุมได้มากขนาดไหน
สุดท้ายลองท้าทายขั้นสุด เดินออกห่างจากบ้านไป 2 หลัง ดูว่ายังเหลือสัญญาณให้ใช้ไหม ผลคือยังเหลือแบบฉิวเฉียดที่ 162/94 Mbps ของจริงครับบบ