รีวิว : TP-Link กล้อง VIGI C340S ชัดในที่มืด ตรวจจับแม่นยำ 24 ชั่วโมง

[Review] เวลา ‘กลางคืน’ คือช่วงที่เกิดเหตุไม่ดีอยู่บ่อยครั้ง และเป็นช่วงที่กล้องวงจรปิดมักจับได้แต่ภาพขาวดำ (ผ่าน IR อินฟาเรด) ซึ่งอาจไม่คมชัดพอ เห็นสิ่งผิดปกติได้ไม่ครบ ให้ใช้ไฟ LED จากกล้องก็กลัวรบกวนเพื่อนบ้านอีก

จากปัญหาดังกล่าว จึงเป็นที่มาของ TP-Link VIGI C340S กล้องวงจรปิดแบบ Network Camera มาพร้อมฟีเจอร์ VIGI ColorPro Night Vision สามารถบันทึกภาพได้คมชัดตลอด 24 ชั่วโมง เก็บภาพสีสว่างคมชัดแม้ในที่มืดสนิท ด้วยรูรับแสง F1.0  และทำได้โดยไม่ต้องใช้ไฟส่องสว่างด้วย ทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ ที่ช่วยตรวจจับได้แม่นยำขึ้น สามารถจำแนกบุคคลและยานพาหนะออกจากวัตถุอื่น ๆ เพื่อให้การแจ้งเตือนที่พอเหมาะกว่าเดิม ซึ่งจะใช้ดีไหม ติดตั้งง่ายไหม มาดูรีวิวนี้กัน

ฟีเจอร์เด่น TP-Link VIGI C340S (4 mm.) ดูรายละเอียดได้ที่ tp-link.com

  • Ultra-Low Light Color Night Vision: บันทึกภาพสีคมชัดตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยความละเอียดภาพ 4 ล้านพิกเซล เก็บภาพสีสว่างคมชัดแม้ในที่มืดสนิทโดยไม่ต้องใช้ไฟส่องสว่าง
  • Face Recognition: เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการการเข้าถึงและการควบคุมการเข้างานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมปกป้องความเป็นส่วนตัวได้ดียิ่งขึ้น
  • People & Vehicle Analytics: ค้นหาบุคคลและยานพาหนะที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ชุดคุณลักษณะพิเศษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาได้อย่างรวดเร็ว
  • Human & Vehicle Classification: สามารถจำแนกบุคคลและยานพาหนะออกจากวัตถุอื่น ๆ ทำให้แจ้งเตือนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
  • Smart Detection: มีการแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบการบุกรุก การเข้าพื้นที่ที่กำหนด การบดบังหน้าเลนส์ และการนำวัตถุออกจากพื้นที่หรือละทิ้งวัตถุ
  • 120dB WDR Technology: ช่วยให้มั่นใจได้ถึงภาพที่คมชัดในฉากที่มีคอนทราสต์สูง
  • Active Defense: ส่งสัญญาณเตือนผู้บุกรุกด้วยแสงและเสียงทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ
  • Two-Way Audio: รองรับระบบอินเตอร์คอม เพื่อใช้ในการสื่อสารโต้ตอบผ่านกล้อง ในระหว่างที่ชมภาพสดไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
  • H.265+: บีบอัดขนาดไฟล์วิดีโอโดยไม่ลดคุณภาพของวิดีโอ ง่ายต่อการเรียกใช้งานผ่านเครือข่าย และลดพื้นที่จัดเก็บ
  • IP67 Waterproof: มาตรฐาน IP67 ที่เชื่อถือได้เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานกลางแจ้ง
  • Flexible Management and Storage: จัดการระบบความปลอดภัยของคุณได้เต็มที่ผ่าน 4 ช่องทาง : Web UI, NVR UI, แอปฯ VIGI บนมือถือ และโปรแกรม VIGI Security Manger อีกทั้งยังรองรับการจัดเก็บข้อมูลได้หลากหลายวิธี และมาพร้อมกับช่องใส่หน่วยความจำ MicroSD ในตัว (รองรับสูงสุด 256 GB)

Unbox & Preview (ภาพรวม)

อุปกรณ์ในกล่องก็ประกอบไปด้วย ตัวกล้อง VIGI C340S , ชุดคู่มือ Quick Start Guide ชุดหุ้มสายกันน้ำ Waterproof Cable Attachments และชุดช่วยติดตั้ง Mounting Accessories

ตัวกล้อง VIGI C340S ถือได้ว่าเป็นกล้อง IP Camera หรือ Network Camera ที่มีความจริงจังมากขึ้น คือหากเป็นกล้อง IP Camera ทั่วไป (เช่นตัว Tapo) ก็สามารถต่อ Wi-Fi เข้ากับเราเตอร์ประจำบ้านได้ง่าย ๆ แต่ตัว VIGI C340S นี้ จะเน้นการเชื่อมต่อผ่านสาย LAN เป็นหลัก (รองรับ POE หรือใช้ไฟผ่านสาย LAN ได้ เพื่อการเชื่อมต่อด้วยสายเส้นเดียว) เพื่อให้ได้สัญญาณภาพที่เสถียร กับคุณภาพไฟล์ที่เชื่อถือได้ และยังคงติดตั้งไม่ยากกับใช้งานง่าย แม้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านกล้องวงจรปิดก็ตาม

นอกจากความเสถียร ตัว VIGI C340S ก็มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 ช่วยให้ใช้งานกลางแจ้งได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับติดตั้งใช้งานนอกบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ในส่วนหน้ากล้อง จุดเด่นแรกที่เห็นก่อนเลยคือ ไฟ LED จำนวน 4 ดวง ไว้ใช้สำหรับกรณีที่ภาพมันมืดมาก ๆ แน่นอนว่าความสว่างก็ทวีคูณ (คิดเรื่อง ‘เพื่อนบ้าน’ ไว้เป็นการดี) ส่วนตัวกล้องก็มาพร้อมเลนส์แบบ Fixed Focal Lens ระยะโฟกัสที่ 4 มม. มาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.8” แบบ Progressive Scan CMOS ให้ความละเอียดภาพที่ 4 ล้านพิกเซล ซึ่งจะคมคัดแค่ไหนนั้น เดี๋ยวมาดูกัน

ตัวกล้องสามารถใส่ Micro SD สำหรับจัดเก็บไฟล์วิดีโอที่บันทึกได้ (รองรับสูงสุด 256 GB) แต่เชื่อเถอะว่า หากมีเรามี ‘สิ่งนี้’ จะช่วยให้เห็นใช้งานตัวกล้องได้เต็มประสิทธิภาพอย่างแน่นอน

Installation (การติดตั้ง)

และสิ่งนี้ที่ว่าก็คือ NVR หรือ Network Video Recorder จะเรียกว่าเป็น ‘ศูนย์กลาง’ ก็ได้ เพราะช่วยทั้งเก็บไฟล์วิดีโอที่ได้จากกล้อง VIGI C340S สามารถดูวิดีโอย้อนหลัง หรือนำไฟล์ออกมาก็ได้ กับช่วยควบคุมฟีเจอร์ต่าง ๆ ของตัวกล้องได้แบบละเอียด และช่วยให้ควบคุมตัวกล้องได้มากกว่า 1 ตัว ในเวลาพร้อม ๆ กัน

โดยในที่นี่ทาง TP-Link ก็ได้ส่ง VIGI NVR4032H TP-Link 32 Channel Network Video Recorder เป็นกล่อง NVR ระดับสูง รองรับการใช้งานกล้องได้มากถึง 32 ตัว ซึ่งในรีวิวนี้เราจะมาจับคู่กับตัว VIGI C340S กัน ลองมาดูกันว่า ติดตั้งยากไหม ใช้งานยุ่งยากหรือไม่

อันดับแรกก็ทำการติดตั้ง HDD ลงในตัว NVR รุ่น VIGI NVR4032H นี้ก่อน ขอขอบคุณทาง TP-Link Thailand งาม ๆ เลย ที่ส่งตัว HDD รุ่น WD Purple มาให้ใช้ ซึ่งเป็น HDD ที่เกิดมาเพื่อใช้งานร่วมกับกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ 

หลังติดตั้ง HDD เสร็จ ต่อไปก็ทำเสียบสาย ต่อสาย LAN จากตัว NVR สู่เราเตอร์ ส่วนตัวกล้อง VIGI C340S ก็ต่อเข้ากับเราเตอร์อีกที จากนั้นก็โหลดและติดตั้งแอปฯ TP-Link VIGI เพื่อใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลา 

หากตัวเราเตอร์มีพอร์ตเชื่อมต่อว่างหลาย ๆ ช่อง ก็สามารถนำมาต่อกล้องเพิ่มเติมได้ แต่ถ้าจริงจัง ต้องการต่อกล้องมากกว่า 4 ตัว ก็ควรหาตัว ‘Switches’ มาใช้ไปเลยจะดีกว่า เพราะจะใช้ได้พอร์ต POE ให้ต่อสาย LAN พร้อมไฟเลี้ยงกับตัวกล้องเส้นเดียวไปเลย จะได้ไม่ต้องหาชุดไฟเลี้ยงแบบ AC 12V มาต่อเพิ่มให้รุงรังแบบในรีวิวนี้

อนึ่ง หากเชื่อมต่อกับเราเตอร์แล้ว ก็สามารถใช้งานแอปฯ TP-Link VIGI จากสมาร์ทโฟนได้ด้วย สามารถเข้าถึงตัวกล้องได้ทุกที่ทุกเวลา

VIGI Security Manger การควบคุม

หลัง Setup อะไรเสร็จแล้ว ต่อไปก็ลองมาดูหน้าควบคุมตัวกล้องผ่าน VIGI Security Manger ลองมาดูส่วนหลัก ๆ ที่เราจะได้ใช้งานกัน ดูว่าใช้งานได้ง่ายและเป็นประโยชน์มากน้อยแค่ไหนกัน แต่ก่อนอื่นขอชมจากใจเลยว่า ภาพคมมาก ๆ ยิ่งถ้าอยู่ในสภาพที่แสงครบถ้วน ภาพก็จะยิ่งออกมาคม ทว่ารีวิวนี้อยากเห็นภาพในที่แสงน้อยมากกว่า ซึ่งเดี๋ยวมาทดสอบกัน

ตำแหน่งตัวกล้อง (ชั่วคราว) ให้ดีควรแขวนผนัง เพื่อความปลอดภัย

หน้าเมนูหลักของระบบ NVR จาก TP-link โดยจะมีฟีเจอร์ไหนที่น่าสนใจบ้าง ลองมาดูกัน

หากภาพจากกล้องดูมืดไปหน่อย ก็สามารถปรับการแสดงผลจาก ‘โหมดภาพ’ เปลี่ยน [มาตรฐาน] เป็น [แสง] เพียงเท่านี้ภาพก็จะมีความสว่างมากขึ้นแล้ว

ตัวเครื่อง NVR สามารถส่งไฟล์วิดีโอผ่านช่อง USB 3.0 x 2 ด้านหน้าได้โดยตรง โดยในระบบ NVR ตรงส่วน ‘การเล่นที่บันทึกไว้’ หรือดูย้อนหลัง สามารถตัดเลือกฉากที่ต้องการส่งออก จากนั้นก็นำ HDD/SSD พกพา หรือแฟลชไดร์ฟ มาต่อเพิ่อเก็บไฟล์วิดีโอที่ต้องการได้ง่าย ๆ

Ultra-Low Light Color Night Vision ทดสอบประสิทธิภาพ

‘บันทึกภาพสีคมชัดตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยความละเอียดภาพ 4 ล้านพิกเซล เก็บภาพสีสว่างคมชัดแม้ในที่มืดสนิทโดยไม่ต้องใช้ไฟส่องสว่าง’ ตามคำอธิบายสเปก ดูเหมือนตัวกล้องจะไม่ได้ใส่ IR หรืออินฟราเรดมาให้ อาจมั่นใจในเรื่องความละเอียด ที่แม้ตอนกลางคืนหรือในที่สว่างน้อย ก็ยังคงเห็นรายละเอียดได้ ละเอียดจริงไหม ลองดูภาพนี้เลย

นี่คือภาพที่เก็บได้ในช่วงเวลาเกือบตี 1 ต้องบอกเลยว่า ในภาพดูสว่าง แต่ของจริงคือมืดมาก ๆ ทว่าตัวกล้องก็อาศัยแสงรอบ ๆ มาช่วยดึงความสว่างเต็มที่ ทำให้ภาพยังออกมาสว่างคมชัดได้อย่างไม่น่าเชื่อ 

จุดสำคัญเลยคือ ***ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟ LED ทั้ง 4 ดวงของตัวกล้องแต่อย่างใดเลย***

และนี่คือภาพตามที่สายตาเรามองเห็นจริง ๆ เมื่อเทียบกับตัวกล้อง VIGI C340S แล้ว เห็นเลยว่าต่าง

ลองพิสูจน์อีกภาพ คราวนี้ ‘แสงไม่มี’ คือเป็นสภาพห้องปิด หากปิดไฟคือมืดแทบจะ 100% ลองดูกันว่าตัวกล้องยังสามารถมองเห็นอะไรได้หรือไม่ (ปล.เวลาจริง ๆ คือ 2 ทุ่มกว่า ๆ นะเออ)

ผลก็ตามที่เห็น คือตอนอยู่ห้อง บอกเลยว่ามองอะไรแทบไม่เห็นแล้ว ทว่าตัวกล้อง VIGI C340S ก็ยังอุตสาห์ดึงแสงที่มีอยู่น้อยนิดบริเวณผ้าม่านออกมาได้

นอกจากภาพในที่แสงน้อยแล้ว หากเป็นภาพที่มีการย้อนแสง ตัวกล้องก็สามารถเก็บภาพได้ดีเหมือนกัน

ทดสอบฟีเจอร์อัจฉริยะ

ตัวกล้องมาพร้อม Smart Detection รวมฟีเจอร์ตรวจจับมากมาย ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึง ‘เหตุการณ์ผิดปกติ’ ได้สะดวกขึ้น เช่น เจอคนเข้ามาในบ้าน ก็สามารถดูคลิปย้อนหลังในช่วงที่พบคนเข้ามาในบ้านได้ทันที ไม่ต้องไปกรอดูให้เสียเวลา อีกทั้งยังส่ง Notification แจ้งเตือนมายังมือถือได้ตลอดด้วยเช่นกัน เช่น แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบการบุกรุก การเข้าพื้นที่ที่กำหนด การบดบังหน้าเลนส์ และการนำวัตถุออกจากพื้นที่หรือละทิ้งวัตถุ

ตัวอย่างการแจ้งเตือน หากตัวกล้องพบอะไร ก็จะแจ้งเป็น Notification ตามภาพ ซึ่งเราสามารถกดเพื่อดูคลิปช่วงนั้นแบบสด ๆ ได้ทันที หรือจะเข้ามาดูย้อนหลังก็ได้

สามารถตั้งค่า Smart Detection ผ่านแอปฯ ในสมาร์ทโฟนก็ได้

หรือตั้งค่า Smart Detection ผ่าน NVR ก็ได้เหมือนกัน ซึ่งจะตั้งค่าได้ละเอียดกว่าในแอปฯ พอควร (แต่ส่วนตัวคิดว่าตั้งค่าในแอปฯ ง่ายกว่านะ)

(ภาพตัวอย่างจาก TP-Link)

ปิดท้ายด้วยระบบ AI ในกล้อง หรือ Face Recognition กับ People & Vehicle Analytics ช่วยค้นหาเหตุการณ์ที่ตัวกล้องพบ ‘บุคคล’ หรือ ‘ยานพาหนะ’ ได้ตามที่ระบุ ระบุที่ว่า ค้นหาคนใส่ชุดสีนี้ รถสีนั้น ตัวกล้องก็จะใช้ AI ช่วยค้นหาวิดีโอย้อนหลังให้อย่างละเอียดเลย ทว่ายังเป็น Beta หรือตัวทดสอบ การใช้งานอาจจะยังไม่ 100% ซะทีเดียว แต่ถึงยังไม่ 100% ตัว AI ของกล้องก็สามารถ ‘จำแนก’ บุคคลในภาพได้อย่างแม่นยำเอาเรื่อง ซึ่งก่อนใช้งานนั้น ก็ต้องไปเปิดใช้งานฟีเจอร์ซัก 2 – 3 ขั้นตอนก่อนตามนี้

อันดับแรก ไปที่เมนูตั้งค่าใน NVR จากนั้นก็คลิกที่ตัวเลือก [การตั้งค่า] ต่อด้วย [การวิเคราะห์ AI] ให้กด ‘เลื่อนแถบ’ เพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ และ ‘ติ๊กถูก’ เพื่อยืนยันการใช้งานตามภาพ

จากนั้นก็ไปที่หน้าตั้งค่าตัว [กล้อง] เลือกที่ [การเข้าถึงอุปกรณ์] ในหน้านี้ก็ดูที่ตัวเลข IP ของกล้องไว้ให้ดี ๆ เลย เพราะต้องเอาไปใช้ตั้งค่าผ่านเว็บเบราเซอร์อีกที อนึ่งตัวกล้องต้องอยู่ ‘วง LAN’ เดียวกันกับเครื่อง PC ที่ใช้งานด้วยนะ ถึงจะตั้งค่าในส่วนต่อไปได้

ในส่วนถัดมาก็นำเลข IP ของกล้อง มาพิมพ์ใน URL ของเว็บ เช่น https://10.232.1.2 ตามภาพ หากเจอระบบป้องกัน ก็กดที่ตัวเลือก ‘ซ่อนข้อมูลชั้นสูง’ และคลิกชื่อ URL ที่ปรากฏได้เลย เท่านี้ก็จะเข้าสู่หน้า config หรือตั้งค่ากล้องผ่านเว็บแล้ว

เมื่อเข้าสู่หน้าตั้งค่ากล้องผ่านเว็บแล้ว ก็ไปที่เมนู [Settings] และ [Smart] จากนั้นก็กดเลื่อนแถบเปิดใช้งานตัว Face Recognition หรือ People & Vehicle Analytics พร้อมกดติ๊กถูกเพื่อยืนยันการใช้งานต่ออีกครั้ง เท่านี้ฟีเจอร์ AI ช่วยจำแนกของตัวกล้องก็พร้อมใช้งานแล้ว ลองมาดูกันว่ามันจำแนกได้แม่นยำแค่ไหน

อนึ่งตัว Face Recognition และ People & Vehicle Analytics ไม่สามารถกดเลือกพรัอมกันได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น

หากเลือกเปิดใช้งาน Face Recognition ตัวกล้องก็จะมีการเก็บภาพใบหน้าของบุคคลที่ปรากฏในกล้องทั้งหมดเลย ซึ่งหากตั้งกล้องไว้หน้าบ้าน ก็สามารถดูได้เลยว่า มีคนรู้จักหรือ ‘ไม่เคยเห็นหน้า’ เข้ามาในบ้านหรือไม่

หากเลือก People & Vehicle Analytics ตัวกล้องก็จะจดจำทั้งบุคคล (ผมเอง -//-) และยานพาหนะ ซึ่งในที่นี่ก็ขอเน้นไปที่บุคคล หากตัวกล้องพบ ก็จะมาปรากฏให้เห็นตามภาพ

และตรงนี้เอง คือจุดไว้ทดสอบความแม่นยำของ AI โดยเฉพาะ ในส่วนนี้ของระบบ NVR เราสามารถระบุบุคคลแบบเฉพาะเจาะจงได้ เช่น ค้นหาบุคคลที่สีท่อนบนเป็นสีเขียว หรือในที่นี้ก็คือสวมชุดสีเขียวนั้นเอง ตัวระบบก็จะคัดเฉพาะบุคคลที่เข้าข่ายมาให้ทันที

ค้นหาบุคคลที่สวมชุดดำ ระบบก็คัดมาให้ตามนี้ บอกเลยว่าแม่นสุด ๆ

นอกจากท่อนบนหรือเสื้อผ้าแล้ว ก็ยังค้นหาส่วนท่อนล่างหรือกางเกงได้ เช่น หาบุคคลที่สวมกางเกงสีดำ ระบบก็จัดให้

และส่วนสุดท้าย ในภาพที่ตัวกล้องช่วยจำแนกมานั้น ก็สามารถกดคลิกไปดูช่วงเวลาที่ตัวกล้องพบได้เลย ช่วยประหยัดเวลาในการค้นหา ‘ผู้ต้องสงสัย’ ไปได้เยอะ ไม่ต้องมาไล่ดูย้อนหลังให้เหนื่อย แต่มากดค้นหากับ AI ได้โดยตรง ช่วยให้เจอบุคคลหรือยานพาหนะที่ต้องการได้ทันทีทันใด

สรุป

Shops
แชร์ :
review
  • วัสดุ / การออกแบบ
  • สเปค / ฟีเจอร์
  • ราคา / ความคุ้มค่า

Summary

หากใครอยากมีระบบกล้องวงจรปิดที่มีความจริงจัง เน้นความเสถียร และความเชื่อถือได้ ปัจจุบันสามารถหามาติดตั้งด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ แล้ว อย่างเช่นชุด TP-Link VIGI C340S กับ TP-Link VIGI NVR4032H ชูโรงด้วยตัวกล้อง VIGI C340S ที่มาพร้อมความละเอียดสูง และฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย ผนวกกับตัว VIGI NVR4032H กล่อง NVR คุณภาพสูง ที่รองรับกล้องได้ถึง 32 ตัว และ HDD ได้ถึง 4 ลูก 

ในรีวิวก็เผยให้เห็นแล้วว่า การนำ NVR มาใช้ร่วมกับกล้อง VIGI ของ TP-Link ไม่ได้มีความยุ่งยากอะไรมาก จะติดก็เรื่องของสาย LAN ที่อาจต้องใช้เวลาวางแผนติดตั้งกันหน่อย แต่นอกนั้นก็ติดตั้งและใช้งานสบาย ๆ ไม่ได้มีความยุ่งยากอะไรมาก

ถัดมาคือประสิทธิภาพ VIGI C340S ก็สามารถเก็บภาพช่วงกลางคืนหรือที่แสงน้อยได้เป็นอย่างดี แม้หากเจอที่แสงน้อยจนมืด ก็ยังพอเก็บรายละเอียดเป็นภาพ 4 ออกมาได้

ด้านระบบ Smart Detection ตรวจจับสิ่งผิดปกติต่าง ๆ ก็สามารถตรวจจับได้แม่นยำพอควร เจอรถบอกรถ เจอคนบอกคน ก็สามารถแยกแยะได้กำลังดี 

ตัว Smart Detection ว่าว้าวแล้ว Face Recognition และ People & Vehicle Analytics ก็ว้าวยิ่งกว่า นี่คือฟีเจอร์ AI โดยแท้ สามารถแยกแยะบุคคลยันเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้แม่นมาก ๆ เช่น หาคนที่ใส่ชุดดำ ตัวระบบก็จะคัดเฉพาะบุคคลสวมชุดดำที่ปรากฏในกล้องได้ทันที เอาไว้ใช้ในการสืบสวนหรือหาข้อมูลเฉพาะได้เลย

ท้ายนี้ตัวกล้อง TP-Link VIGI C340S เปิดราคาอยู่ที่ 3,950 บาท มาพร้อมประกัน 3 ปี ส่วนตัวกล่อง NVR หรือ TP-Link VIGI NVR4032H  ก็เปิดราคาอยู่ที่บาท 9,990 บาท มาพร้อมประกัน 3 ปีเช่นเดียวกัน

Comments Rating 0 (0 reviews)

Leave a Reply

User Review
  • วัสดุ / การออกแบบ
    Sending
  • สเปค / ฟีเจอร์
    Sending
  • ราคา / ความคุ้มค่า
    Sending

Follow us
Most popular
Category
Tag

Relate Article