[โรงหนัง @ Home] เอาใจพ่อบ้านไอทีโดยเฉพาะ (หรือแม่บ้านสาย Pro) สำหรับใครที่อยากมีระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 9.1.5 ch ที่ครบจบในกล่องเดียวเลย โดยที่งบไม่บานระดับครึ่งแสน ทาง LG จัดให้กับ “S95TR” ที่สุดของลำโพง Soundbar สุดคุ้มค่า ที่มาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง 15 ช่องสัญญาณ ทั้งตัว Soundbar ที่ยิงเสียงขึ้นด้านบน 5 ตัว กับซับวูฟเฟอร์ด้วยมอบมิติ และลำโพงซับ 2 ตัวด้านหลัง ที่ทั้งหมดมาในชุดเดียว ไม่ต้องไล่ซื้อทีละตัวให้เหนื่อย อีกทั้งมาพร้อม AI Room Calibration ที่ช่วยปรับเสียงให้กระจายทั่วทุกมุมห้องอย่างแม่นยำด้วย แม่นยำแค่ไหน เสียงดีจริงไหม มาดูรีวิวนี้กันครับ
รายละเอียดสเปก LG S95TR Home Theater Soundbar
- Number of Channels : 9.1.5
- Output Power : 810 W
- Audio Format : Dolby Atmos , DTS:X , AAC+
- High-Resolution Audio : 24bit/96kHz
- Convenience : WOW Orchestra
- Connectivity : Bluetooth 5.1 (SBC/AAC) , HDMI In/Out , Optical , Wi-Fi , USB , Alexa , Google Home , Chromecast
- Dimension (WxHxD) – Main : 1250 x 63 x 135 mm (5.65 kg)
- Dimension (WxHxD) – Rear Speaker : 159 x 223 x 142 mm (4.08 kg)
- Dimension (WxHxD) – Subwoofer : 201.7 x 407.0 x 403.0 mm (10.0 kg)
ชุดลำโพง LG S95TR Home Theater Soundbar
สเปกเลยคือ Number of Channel : 9.1.5 กับ Output Power : 810 W ซึ่งทั้งหมดก็รวมทั้งลำโพงคู่ Rear Speaker กับลำโพง Subwoofer ด้วยนั้นเอง โดยแต่ละตัวจะเชื่อมต่อยังไงกับมีหน้าที่อะไรบ้าง ลองมาดูกัน
งานออกแบบ
สำหรับรีวิวนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า “ไม่เน้นสวยงาม” แต่เน้นคุณภาพ ซึ่งจะมีทดสอบพลังเสียงแบบเน้น ๆ แทน ฉะนั้นเรื่องสถานที่อาจดูไม่สวยนัก แต่มันคือห้องเปล่าที่เหมาะสำหรับทดสอบตัวลำโพงมากที่สุดแล้ว LG S95TR Home Theater Soundbar หรือสั้น ๆ คือ LG S95TR นับเป็นชุดลำโพง 9.1.5 ที่มาพร้อมทั้ง Subwoofer กับ Rear Speaker มาใช้งานร่วมกับตัวลำโพงหลักโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ต้องซื้อแยกให้วุ่นวายเลย ในส่วนหน้าตาก็จัดว่าหล่อเลยทีเดียว มาเป็นธีมสีดำทั้งชุด ซึ่งตัว Soundbar ที่เป็นลำโพงหลักนั้น ก็มีขนาดใหญ่และหนักเอาเรื่อง 1250 x 63 x 135 mm (5.65 กก.)
ด้านบนตัวลำโพงก็มาพร้อมปุ่มควบคุมแบบสัมผัส ซึ่งกดปรับระดับเสียงได้ และสามารถควบคุมการเชื่อมต่อทั้งแบบต่อสาย HDMI หรือ WI-Fi กับ Bluetooth ได้ทันที เผื่ออยากเปิดเพลงจากมือถือหรือ PC มากกว่า TV ก็มากดเปลี่ยนได้เลยนั้นเอง จุดนี้ก็มีลำโพงอีกตัวอยู่ด้านบนด้วย เอาไว้สำหรับการ “ยิงเสียงกลางขึ้น” ที่เหมือนทำให้มีเสียงส่งตรงมาจากทีวีเลย
และตัวลำโพงดังกล่าวหรือ Center-Up-firing ก็จะมาช่วยสร้างพลังเสียงแบบ 3 มิติ หรือช่วยให้เสียงรอบทิศทางมีมิติมากขึ้นนี้เอง
ในส่วนพอร์ตเชื่อมต่อ ก็มาซ่อนอยู่ด้านหลังนี้เอง โดยมีทั้งพอร์ต HDMI In กับ HDMI eARC/ARC , USB-A (5V) และ Optical ส่วนช่องต่อไฟเลี้ยงจะซ่อนอยู่ใต้ตัวลำโพง ต้องพลิกดูใต้ล่างถึงจะเห็น
9.1.5 channel (Wireless Freedom)
จุดเด่นของ LG S95TR Home Theater Soundbar คือการมีลำโพงมาให้ 3 ชนิด อาทิ Main หรือลำโพงหลักที่เป็น Soundbar ซึ่งมาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง 810 วัตต์ 15 ช่องสัญญาณ พร้อมลำโพงยิงเสียงขึ้นด้านบน 5 ตัว และซับวูฟเฟอร์ มอบประสบการณ์เสียงสมจริงดุจมีชีวิตให้กับทีวีของเรา (ถ้าใช้ทีวี LG ด้วยจะดีมาก) ด้วยคุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมจาก Dolby Atmos และ DTS:X
อนึ่งตัวลำโพง Rear Speaker x 2 กับ Subwoofer x 1 สามารถเชื่อมต่อกับตัว Soundbar ได้แบบไร้สายเลย ไม่ต้องใช้สายต่อระหว่างกันให้ดูรกตา ทำให้จัดวางตำแหน่งตัวชุดลำโพงทั้งได้สะดวกมาก (ถ้าได้ห้องทดสอบดีกว่านี้จะสวยมาก)
แบบนี้เป็นต้น
LG ThinQ App
แต่เดิมจะมีแอปฯ LG Soundbar สำหรับควบคุมตัวลำโพงโดยตรง แต่ล่าสุดทาง LG ย้ายมาอยู่ในแอปฯ “LG ThinQ” แล้ว ฉะนั้นอย่าโหลดผิดนะเออ และสำหรับตัวแอปฯ ก็จะมีหน้าตั้งค่าตัวลำโพงให้ตามนี้เลย
อันดับแรกก็จัดการเพิ่มตัวลำโพง LG S95TR เข้ามาในแอปฯ ก่อน โดยสามารถตั้งค่าได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนเป็นเสร็จ
หลังตั้งค่าเสร็จแล้ว ต่อไปให้ทำการเปลี่ยนฟังก์ชันการเชื่อมต่อเป็น HDMI In ตามที่เราเชื่อมต่อกับ TV เพื่อให้ไดคุณภาพเสียงที่แม้จริง จากนั้นก็ลองปรับค่า db ของลำโพงดู เนื่องด้วยในห้องหรือในบ้านของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฉะนั้นส่วนนี้ก็ควรปรับให้เหมาะสมกับห้องด้วยจะดีมาก
AI Room Calibration
แน่นอนว่าให้ปรับค่า db เองคงลำบาก ทาง LG จึงมีฟีเจอร์ช่วยเหลืออย่าง AI Room Calibration ซึ่งเป็นระบบ AI อัจฉริยะ ที่สามารถใช้เสียงสะท้อนเพื่อเช็คได้เลยว่า ห้องที่ตั้งลำโพงมีความกว้างหรือแคบแค่ไหน จากนั้นก็จะทำการ Calibrate ปรับค่าเสียงให้เหมาะสมเอง ซึ่งบอกเลยว่าหลังปรับแล้ว คุณภาพเสียงดีขึ้นมาก ๆ ฉะนั้นควรใช้เป็นอย่างยิ่ง
อนึ่งตอนใช้ AI Room Calibration ควรวางทั้ง Subwoofer กับ Soundbar ให้อยู่ใกล้ ๆ หรืออยู่ในระยะที่พอเหมาะด้วยนะ ไม่งั้น Calibrate ไม่ติดนะเออ
ทดสอบเสียง (ร่วมกับ WOW Orchestra)
สำหรับรีวิวนี้ ก็มีโอกาสได้ลองใช้ลำโพง LG S95TR ร่วมกับทีวี OLED ตัว Top อย่าง LG OLED evo C5 เลย กับขนาดจอใหญ่ถึง 65 นิ้ว และมาพร้อมฟีเจอร์เฉพาะอย่าง WOW Orchestra ด้วย เป็นเทคโนโลยีที่รวมพลังเสียงระหว่างทีวี LG OLED กับ LG Soundbar ให้ทำงานประสานกันอย่างสมบูรณ์ (ใช้ลำโพงทีวีช่วยด้วยนั้นเอง) เพื่อสร้างมิติเสียงที่กว้าง ลุ่มลึก และชัดเจนยิ่งขึ้น ให้เสียงจากทั้งทีวีและซาวด์บาร์มาบรรเลงพร้อมกัน เหมือนมีวงออร์เคสตราขนาดย่อม ๆ อยู่ในห้องเรา มอบประสบการณ์เสียง Dolby Atmos ที่เหนือกว่าการแยกใช้ลำโพงเดี่ยว ๆ ดังนี้
ลองทดสอบกับหนัง F1 2025 เสียงรถสูตรหนึ่งคือดังกระหึ่มได้ใจมาก ๆ (จนเกรงใจเพื่อนบ้านที่อยู่ข้าง ๆ เลย) ซึ่งก่อนใช้ AI Room Calibration สามารถปรับเสียงได้ระดับ 45 แต่หลังปรับแล้วต้องลดเหลือ 35 แทน เพราะเสียงมันดังจริง ๆ แต่ระดับเสียงนี้ก็เหมือนเอาตัวเองไปอยู่ข้างสนามแข่งรถ F1 แล้ว ผนวกกับความคมชัดของ LG OLED evo C5 ด้วยแล้ว บอกเลยว่า Fin โ-ตร ๆ
ต่อไปลองทดสอบเสียงรรอบทิศทางกับคลิปเทสจาก Dolby Atmos โดยเฉพาะ ซึ่งก็ได้ยินเสียงนกเสียงป่า เสียงฝนและฟ้าร้องได้เต็มอิ่มมาก จนอยากให้มาลองฟังด้วยตัวเองจริง ๆ
ทั้งนี้ตัวลำโพง LG S95TR ก็มาพร้อมช่องสัญญาณ Center-Up-firing ที่ช่วยสร้างเสียงที่สมจริงยิ่งขึ้น ทำให้เสียงพูดชัดเจนขึ้น ก็ลองจัดเพลงที่เน้นเสียงร้องจากเว็บ Dolby Atmos เช่นเคย ผลคือไม่ก้าปรับระดับเสียงเกิน 30 เลย เพราะมันดังกังวาลสุด ๆ จนมากกว่านี้อาจโดนเพื่อนบ้านเคาะประตูก็เป็นได้
สุดท้ายลองทดสอบเล่นเกม PC ผ่าน Steam Remote Play (โน้ตบุ๊กที่ใช้ทดสอบไม่แรงพอ Q_Q) คือไม่เน้นความคมหรือไหลลื่น แต่เน้นเสียงล้วน ๆ แทน ซึ่งตัวลำโพงก็ขับเสียง ‘คำราม’ ของรถที่ขับในเกมได้ดุเดือดเอาเรื่อง รวมถึงเสียง ‘สบถ’ ของศัตรูในเกมได้เน้นเหลือเกิน ตะโกน FxxK มาแต่ไกล…
สรุป
