5 เครื่องเล่นเกมพกพา รุ่นใหม่ โดนใจเกมเมอร์

มหกรรม Commart กลับมาอีกครั้ง และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสินค้าที่ร้อนแรงและเป็นที่จับตามองมากที่สุดในกลุ่มเกมเมอร์ตอนนี้คือ เครื่องเล่นเกมพกพา หรือ Handheld Gaming PC ที่ยกเอาขุมพลังของ PC มาไว้ในมือเรา ทำให้การเล่นเกม AAA ที่ไหนก็ได้ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป

แต่เมื่อเดินเข้างาน  อาจจะพบกับตัวเลือกมากมาก บทความนี้ เลยจะพาไปเจาะลึก 5 ตัวท็อปในตลาด เปรียบเทียบทั้งสเปก ความแรง ฟีเจอร์เด่น  เพื่อให้ได้เลือกเครื่องที่ใช่ที่สุด สำหรับแต่ละคนครับ

1. ASUS ROG ALLY X ตัวจบสำหรับเกมเมอร์สาย Performance

ASUS ROG Ally X คือการกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีของยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมมิ่งฮาร์ดแวร์ โดยในรุ่น X นี้ได้มีการอัปเกรดและปรับปรุงจากรุ่นแรกในหลายๆ ด้าน ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ทรงพลังที่สุดในตลาดตอนนี้เลย

สเปกและความแรง

  • CPU AMD Ryzen™ Z1 Extreme Processor สถาปัตยกรรม Zen 4 (8 Cores/16 Threads) ที่ปรับแต่งมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ให้ประสิทธิภาพที่แรงเหลือเฟือสำหรับการเล่นเกม AAA ในปัจจุบัน
  • GPU AMD Radeon™ Graphics (RDNA™ 3, 12 CUs) ให้พลังการประมวลผลกราฟิกที่สูง สามารถดันเฟรมเรตในเกมต่างๆ ได้สบาย
  • RAM อัปเกรดขึ้นมาเป็น 24GB LPDDR5 7500MHz ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญ ทำให้การเล่นเกมไหลลื่นขึ้น
  • Storage 1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2 SSD 
  • หน้าจอ: ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080) พาเนล IPS รีเฟรชเรต 120Hz พร้อม AMD FreeSync™ Premium ให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใส และการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลไร้การฉีกขาด

ฟีเจอร์เด่น

  • แบตเตอรี่อึดขึ้น อัปเกรดแบตเตอรี่เป็น 80WHrs ซึ่งแก้ปัญหาหลักจากรุ่นแรกได้อย่างตรงจุด ทำให้เล่นเกมได้ยาวนานขึ้น
  • มาพร้อมพอร์ต USB4® (Thunderbolt™ 4) ถึง 2 พอร์ต เพิ่มความยืดหยุ่นในการต่ออุปกรณ์เสริมและจอแยก
  • ระบบระบายความร้อนใหม่ มีปรับปรุงพัดลมและฮีตซิงก์ให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น แม้จะเล่นเกมหนักๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  • Armoury Crate SE  ซอฟต์แวร์จัดการเครื่องที่ใช้งานง่าย ปรับแต่งประสิทธิภาพและตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างสะดวก

เหมาะกับเกมเมอร์สายจริงจังที่ต้องการประสิทธิภาพในการเล่นเกม AAA ใหม่ๆ 

2. ONEXPLAYER 2 PRO 2TB – จอใหญ่สะใจ พร้อมลูกเล่นถอดประกอบ

ONEXPLAYER เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่สร้างชื่อในตลาดเครื่องเล่นเกมพกพามาอย่างยาวนาน และ ONEXPLAYER 2 PRO ก็เป็นรุ่นที่ชูจุดเด่นด้านความอเนกประสงค์และหน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้เล่นได้เต็มตามากขึ้น

สเปกและความแรง

  • CPU AMD Ryzen™ 7 8840U สถาปัตยกรรม Zen 4 (8 Cores/16 Threads) ซึ่งเป็นขุมพลังรุ่นใหม่ที่แรงไม่แพ้ใคร
  • GPU AMD Radeon™ 780M Graphics (RDNA™ 3) ทำงานร่วมกับ CPU ได้อย่างลงตัว สามารถเล่นเกมสมัยใหม่ได้สบาย
  • RAM ให้มาจุใจถึง 32GB LPDDR5X 7500MHz เยอะที่สุดในกลุ่มนี้ เหมาะกับการใช้งานหนักๆ และเปิดหลายโปรแกรมพร้อมกัน
  • Storage 2TB M.2 PCIe 4.0 NVMe SSD เก็บเกมได้แบบจุใจ
  • หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 8.4 นิ้ว ความละเอียดสูง 2.5K (2560×1600) ให้ภาพที่คมชัดและมีพื้นที่แสดงผลที่กว้างมาก

ฟีเจอร์เด่น

  • คอนโทรลเลอร์ถอดได้: เอกลักษณ์สำคัญของรุ่นนี้คือคอนโทรลเลอร์ที่สามารถถอดออกจากตัวเครื่องได้ ทำให้ใช้งานได้หลากหลายโหมด ทั้ง Handheld Mode, TV Mode หรือแม้กระทั่ง Tablet Mode
  • ลำโพง Harman AudioEFX ให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมได้มากขึ้น
  • แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ความจุ 65.5Wh พร้อมรองรับชาร์จเร็ว 100W 
  • พอร์ตเชื่อมต่อครบ มีทั้ง USB-C 4.0, USB-A 3.0 และช่องอ่าน MicroSD Card

เหมาะกับเกมเมอร์ที่ชื่นชอบหน้าจอขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ต้องการความคมชัดระดับ 2.5K และมองหาความยืดหยุ่นในการใช้งานที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของเครื่องได้ตามสถานการณ์

3. MSI CLAW 8 AI PLUS – กรงเล็บมังกรขุมพลัง Intel พร้อม AI

MSI กระโดดเข้าร่วมสมรภูมิเครื่องเล่นเกมพกพาด้วย Claw ที่สร้างความแตกต่างด้วยการเลือกใช้ขุมพลังจากฝั่ง Intel และชูจุดเด่นด้าน AI และการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์

สเปกและความแรง

  • CPU: Intel® Core™ Ultra 7 processor (Lunar Lake) รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อม NPU (Neural Processing Unit) สำหรับการประมวลผล AI โดยเฉพาะ เพิ่มประสิทธิภาพและช่วยในการประหยัดพลังงาน
  • GPU Intel® Arc™ Graphics กราฟิกออนบอร์ดตัวแรงจาก Intel ที่รองรับเทคโนโลยี XeSS (Xe Super Sampling) ช่วยอัปสเกลภาพและเพิ่มเฟรมเรตในเกมที่รองรับ
  • RAM 32GB LPDDR5X 
  • Storage: 1TB NVMe PCIe Gen4 SSD
  • หน้าจอ ขยับขยายเป็น 8 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1920×1200) อัตราส่วน 16:10, รีเฟรชเรต 120Hz พร้อมรองรับ VRR (Variable Refresh Rate)

ฟีเจอร์เด่น

  • Copilot+ PC เป็นเครื่องเล่นเกมพกพากลุ่มแรกๆ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Copilot+ จาก Microsoft ทำให้สามารถใช้ความสามารถของ AI ในการช่วยทำงานต่างๆ ได้
  • Thunderbolt™ 4 สองพอร์ต เช่นเดียวกับ ROG Ally X การมี Thunderbolt 4 ถึงสองพอร์ตเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อได้อย่างมหาศาล
  • ระบบระบายความร้อน Cooler Boost HyperFlow เทคโนโลยีระบายความร้อนที่เป็นเอกสิทธิ์ของ MSI 
  • พร้อมไฟ RGB เพิ่มความสวยงามสไตล์เกมมิ่ง

เหมาะกับเกมเมอร์ที่เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะฝั่ง Intel และ AI, ผู้ที่ต้องการเครื่องที่ไม่ได้มีดีแค่เล่นเกม แต่ยังสามารถใช้ฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ ได้อีกด้วย 

4. LENOVO LEGION GO จอใหญ่ QHD+ พร้อมคอนโทรลเลอร์ FPS Mode

LENOVO LEGION GO มีจุดขายที่หน้าจอคุณภาพสูงและคอนโทรลเลอร์สุดล้ำครับ

สเปกและความแรง

  • CPU  AMD Ryzen™ Z1 Extreme (ในรุ่นท็อป) 
  • GPU Integrated AMD Radeon™ Graphics (RDNA™ 3)
  • RAM 16GB LPDDR5X 7500MHz
  • Storage 512GB/1TB SSD M.2 2242 PCIe 4.0×4 NVMe
  • หน้าจอ จอภาพ Lenovo PureSight Gaming Display ขนาด 8.8 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง QHD+ (2560 x 1600) และรีเฟรชเรตสูง 144Hz ให้ภาพที่คมกริบและลื่นไหลสุดๆ

ฟีเจอร์เด่น

  • คอนโทรลเลอร์ถอดได้และ FPS Mode  โดยคอนโทรลเลอร์ TrueStrike สามารถถอดออกได้ และที่พิเศษคือคอนโทรลเลอร์ด้านขวาสามารถนำไปวางบนฐานแม่เหล็กที่ให้มา เพื่อใช้งานใน FPS Mode ทำงานคล้ายกับเมาส์แนวตั้ง เหมาะสำหรับเกมยิงโดยเฉพาะ
  • ขาตั้งในตัว ตัวเครื่องมีขาตั้งที่แข็งแรง สามารถกางออกมาเพื่อวางเล่นบนโต๊ะได้อย่างสะดวก
  • Legion Space UI เฉพาะของ Lenovo ที่เป็นศูนย์รวมเกมและโปรแกรมต่างๆ ให้เข้าถึงได้ง่าย

เหมาะกับเกมเมอร์ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของหน้าจอเป็นอันดับแรก ต้องการความละเอียดสูงและรีเฟรชเรตที่เหนือกว่าคู่แข่ง และผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมแนว FPS 

5. Nintendo Switch 2 เครื่องเกมปู่นินพกพาที่สำหรับเกมเมอร์สายคิ้ว 

Nintendo เพิ่งเปิดตัว Switch ไปไม่นานครับ โดยรุ่นใหม่นี้มีการอัปเดตความแรงต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาทั้งหน้าจอที่ไหลลื่นมากขึ้น ใหญ่ขึ้น มาพร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ ถูกเพิ่มเข้ามา

สเปกและความแรง 

    • CPU/GPU  Custom processor made by NVIDIA โดย Nintendo ไม่ระบุสเปคชัดเจน แต่จากข้อมูล คาดว่า ใช้ชิป SoC ชื่อว่า Nvidia Tegra T239 โดยมี CPU คือ ARM Cortex-A78C และ GPU สถาปัตยกรรม Ampere ของ NVIDIA มี 1536 CUDA cores
    • RAM 12GB LPDDR5X ซึ่งมากกว่า Switch รุ่นแรกถึง 3 เท่า (เดิมมี 4GB LPDDR4) 
    • Storage  256GB แบบ UFS 3.1 (จากเดิม 64GB ใน Switch OLED)
  • หน้าจอ  จอ LCD ขนาด 7.9 นิ้ว (ใหญ่กว่า Switch OLED ที่ 7 นิ้ว) ที่ความละเอียด 1080p ไม่เพียงแค่นั้น หน้าจอยังรองรับ HDR10 เพื่อสีสันที่สดใสและช่วงคอนทราสต์ที่กว้างขึ้น รองรับ Variable Refresh Rate (VRR) สูงสุด 120Hz
  • พอร์ต USB Type C จำนวน 2 พอร์ต 

ฟีเจอร์เด่น 

  • โหมด Docked (ต่อ TV) เมื่อเชื่อมต่อกับ Dock Switch 2 สามารถแสดงผลได้สูงสุด 4K ที่ 60fps และรองรับ 120fps ที่ความละเอียด 1080p
  •  Joy-Con แบบใหม่ โดยใช้ระบบแม่เหล็ก ในการยึดติดกับตัวเครื่อง ทำให้การถอดและใส่ทำได้ง่าย รวดเร็ว และยังมีฟังก์ชั่นเมาส์สำหรับใช้งานในบางเกม
  • HD Rumble ที่พัฒนาขึ้น ระบบสั่นได้รับการปรับปรุงให้มีความแม่นยำและสมจริงยิ่งขึ้น

เครื่องรุ่นนี้เหมาะกับเกมเมอร์สายคิ้ว ที่เล่นเกมสไตล์ Nintendo หรือต้องการเครื่องเล่นเกม ไว้เล่นกับครอบครัวยามว่าง ซึ่งมีอุปกรณ์เสริมไว้ให้เราเล่นเกมได้หลายรูปแบบครับ 

สำคัญ :: Nintendo Switch จะแตกต่างจากเครื่องเล่นเกมก่อนหน้า 4 รุ่นที่แนะนำไป เพราะจำเป็นต้องซื้อเกมจาก Nintendo โดยเฉพาะ ไม่สามารถเล่นเกมจากแพลทฟอร์มอื่น ๆ เช่น Steam ได้ครับ 

 

Shops
แชร์ :
Follow us
Most popular
Category
Tag

Relate Article