ย้อนกลับไปประมาณปี 2016 – 2023 RAM ขนาด 16GB คือ จุดที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับการเล่นเกมและทำงาน แต่ปัจจุบัน สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป ทำให้ 16GB ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเท่าไหร่
ปัจจัยที่ทำให้ 16GB ไม่พอ
- เกมยุคใหม่ เกม AAA ใหม่ๆ โดยเฉพาะที่สร้างบน Unreal Engine 5 ต้องการ RAM มากขึ้น
- โปรแกรมพื้นหลัง แค่เปิดเครื่อง ก็ต้องรันทั้ง Windows 11, Discord, Chrome, Spotify และโปรแกรมอื่นๆ ที่อาจกิน RAM ไปแล้ว 6-8GB
- มาตรฐานคอนโซล โดย PS5 และ Xbox Series X มี Unified Memory 16GB ทำให้นักพัฒนาเกม ก็คาดหวังว่า PC จะมีพื้นที่หน่วยความจำใกล้เคียงกัน
สงสัยไหมว่า อาการของ RAM ไม่พอ เป็นยังไง
อาการหลักในยุคนี้ไม่ใช่เกมเด้งเหมือนเมื่ก่อน แต่คืออาการกระตุก หรือเฟรมร่วงแทน
สาเหตุมาจาก เมื่อ RAM เต็ม ระบบจะย้ายข้อมูลไปพักที่ Pagefile หรือ Virtual Memory ซึ่งอยู่บน SSD แต่แม้ SSD จะเร็ว แต่ก็ยังช้ากว่า RAM หลายพันเท่า
ทุกครั้งที่ระบบต้องดึงข้อมูลจาก SSD กลับมาที่ RAM จะเกิดการหยุดชะงัก ชั่วขณะ ทำให้แม้ FPS เฉลี่ยจะสูง แต่เกมกลับไม่ลื่น และสะดุดเป็นระยะๆ

แล้ว 16GB vs 32GB อันไหนเหมาะสม
คำถามคือ 16GB ยังใช้ได้ไหม
ก็ต้องบอกว่า พอใช้ได้แต่ไม่เพียงพอ อาจจะเหมาะกับเกมเมอร์สาย E-sports อย่างเกม Valorant, CS2 ที่สามารถปิดทุกโปรแกรมก่อนเล่น หรือสายประหยัดงบขั้นสุดแหละนะ
ทีนี้ มาดูมุมที่หลายคนอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับแรม 16GB
หลายคนเห็น Task Manager ว่าเกมที่เราเล่น อาจใช้แรมแค่ 11GB (จาก 16GB) แล้วคิดว่ายังเหลือ
ความจริงคือ ระบบและเกม ฉลาดพอที่จะรั้งการใช้ RAM ไว้ให้ เมื่อเห็นว่าเรามีแรมแค่ 16GB โดยมันจะคอยลบและโหลดข้อมูลใหม่จาก SSD ตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้ทำให้กระตุกในบางครั้ง
มีข้อมูลว่า หากเราอัปเกรดเป็น 32GB แล้ว ในการเล่นเกมเกมเดียวกันอาจใช้ RAM พุ่งไปถึง 20-25GB และอาการกระตุกหายไปเป็นปลิดทิ้ง ซึ่งมาจากกรณีศึกษาเกม Marvel Rivals ใช้ RAM สูงถึง 28GB ทั้ง ๆ ที่ระบบมีมากถึง 64GB)

32GB คือมาตรฐานขั้นต่ำ
ต้องยอมรับว่า 32GB คือมาตรฐานขั้นต่ำที่แนะนำสำหรับคอมใหม่ ประโยชน์ของมันไม่ใช่การเพิ่ม FPS เฉลี่ย แต่คือการซื้อประสบการณ์การเล่นเกมที่ไม่ขัดใจเราด้วยทั้งลด อาการกระตุก ช่วยมีพื้นที่หาย สำหรับเกม AAA และโปรแกรมพื้นหลังต่าง ๆ อย่าง Discord, Chrome, OBS และไม่ต้องคอยพะวงกับการปิดโปรแกรมก่อนเล่นเกม
ระหว่างบัสกับความจุ ควรให้ความสำคัญกับสิ่งไหนก่อน ?
16GB บัสสูง (เช่น 7200MHz) กับ 32GB บัสต่ำ เช่น 5200MHz ควรเลือกอะไร?
ความจุสำคัญกว่า ความเร็วเสมอ
หาก RAM ไม่พอ เช่น มี 16GB แต่เกมต้องการ 20G แม้ความเร็วจะสูง เกมก็จะกระตุกแน่นอน ส่วนบัสที่เร็วขึ้น อาจเพิ่ม FPS เพียง 5-10% เท่านั้น
ข้อสำคัญที่ควรรู้ก่อนซื้อ
ต้องซื้อ 2x16GB เพื่อให้ทำงานแบบ Dual-Channel ได้แบนด์วิดท์สองเท่า แต่ถ้า ซื้อ 1x32GB ระบบจะทำงานแค่ Single-Channel ทำให้เกิดคอขวดมหาศาล และไม่ควรซื้อ 4x8GB เพราะสำหรับ DDR5 การใส่ 4 แผง จะสร้างภาระให้ Memory Controller มากกว่า 2 แผง ทำให้เปิด XMP ที่ 6000MHz ได้ยากกว่า และไม่เสถียร
อีกคำถาม อัปขึ้นไปเป็น 64GB เลยดีไหม ?

จากที่หาข้อมูล หากต้องการใช้เพื่อเล่นเกม ประสิทธิภาพระหว่าง 32GB และ 64GB นั้นแตกต่างกันเล็กน้อย มันไม่ได้เพิ่ม FPS ให้เรามากพอกับการที่ต้องจ่ายขึ้นเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่
แล้วใครที่ต้องใช้ 64GB
- Content Creators
- ตัดต่อวิดีโอ 4K/8K (Premiere Pro, DaVinci Resolve)
- ทำ Motion Graphics หนักๆ (After Effects)
- เรนเดอร์โมเดล 3D (Blender)
- AI Enthusiasts
- การรัน AI ในเครื่องตัวเอง เช่น Stable Diffusion หรือ LLMs กำลังมาแรง
- โมเดล AI จะ ทะลักมาใช้ System RAM เมื่อ VRAM เต็ม
- ส่วนตัวคิดว่า 64GB ถือเป็นขั้นต่ำสำหรับ การรัน AI ครับ
ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า Ram กำลังราคาขึ้นเรื่อย ๆ นะ หากใครอยากซื้แล้วใช้ได้นาน ๆ หน่อยก็อัด 64 GB ไปเลยก็ได้ แต่ส่วนตัวยังมองว่า 32GB ยังเพียงพอในการเล่นเกมไปอีก 2-3 ปี เลย ใครมีงบจัดเสปคคอมเล่นเกมจำกัด เอาเงินไปอัดที่การ์ดจอดีกว่า ซึ่งในอนาต ก็อัปแรมเพิ่มได้ (DDR5 ยังอยู่อีกนานนนน)
