[ดิจิทัลเต็มตัว] จากเว็บเบราเซอร์ สู่อุปกรณ์ PC ที่ตอนนี้มี AI กันถ้วนหน้า ล่าสุดทาง Lenovo ได้ยกทัพโน้ตบุ๊กหลากรุ่น จัดเต็มขุมพลัง AI ยกระดับการใช้งานทั้งฝั่งครีเอเตอร์และเกมมิ่ง ขับเคลื่อนชิปประมวลผล Core Ultra จาก Intel และ Copilot ใน Windows 11 จาก Microsoft

ประเดิมด้วยซีรีส์โน้ตบุ๊กระดับพรีเมี่ยมของ Lenovo อย่าง Yoga รอบนี้ได้มีเพิ่มปุ่มเรียกใช้ผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Copilot ใน Windows 11 โดยเฉพาะ ทั้งใน Lenovo Yoga 9i 2-in-1 และ Lenovo Yoga Pro 9i นอกจากปุ่มลัดใหม่แล้ว ก็ยังมี Lenovo AI Engine+ ขับเคลื่อนโดยชิปเฉพาะจากทาง Lenovo อย่าง LA AI Core ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบได้ผ่านอัลกอริธึมการเรียนรู้ของซอฟต์แวร์ คือยิ่งใช้ไปนาน ๆ ตัว AI ก็จะยิ่งช่วยให้เราใช้งานได้สะดวกหรือช่วยได้ตรงใจยิ่งขึ้นนั้นเอง

ทั้งนี้ยังโชว์ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Lenovo Creator Zone ด้วย อาจเรียกได้ว่าเป็น Generative AI (Gen-AI) แบบออฟไลน์ ช่วยได้ทั้งการสร้างรูปภาพจากข้อความ (Text) หรือภาพสเกตช์ได้ นอกจากนี้ Lenovo Yoga Pro บางรุ่นยังรองรับ Image Training ที่ครีเอเตอร์สามารถฝึกฝนและสร้างโมเดลของตัวเองได้ตามต้องการ Lenovo Creator Zone และฟีเจอร์ต่าง ๆ จะเปิดตัวในเอเชียแปซิฟิกช่วงครึ่งหลังของปี 2024 นี้

ไลน์อัพผลิตภัณฑ์ Lenovo Yoga รุ่นใหม่ มีรายละเอียดดังนี้:

• Lenovo Yoga Book 9i (13″, Gen 9) รองรับการทำงานแบบหน้าจอคู่ เหมาะสำหรับโปรแกรมเมอร์และผู้ที่ทำงานหลายอย่างพร้อมกันตลอดเวลา
• Lenovo Yoga Pro 9i (16”, Gen 9) ดีไซน์เพื่องานที่มีเวิร์คโหลดสูง เช่น การเรนเดอร์ 3D หรือ แอนิเมชัน
• Lenovo Yoga Pro 7i (14”, Gen 9) เหมาะสำหรับการตัดต่อวิดีโอ และบันทึกวิดีโอภายในสตูดิโอ
• Lenovo Yoga Slim 7i (14”, Gen 9) เหมาะสำหรับการแก้ไขภาพระดับมืออาชีพและการเขียนโค้ดที่ลื่นไหลไร้สะดุด
• Lenovo Yoga 9i 2-in-1 (14”, Gen 9) และ Lenovo Yoga 7i 2-in-1 (14” และ 16”, Gen 9) เหมาะเพื่อการใช้งานกราฟิก และ illustrations คุณภาพสูง
• Lenovo Yoga Ecosystem – เมาส์ Lenovo Yoga Pro Bluetooth, เมาส์ Lenovo Yoga 600 Bluetooth Silent, หูฟังสเตอริโอไร้สาย Lenovo Yoga True และ ชุดเคสแล็ปท็อปสำหรับ Lenovo Yoga

ถัดจากซีรีส์ Yoga ก็มีฝั่งเกมมิ่งอย่าง Lenovo Legion ที่รอบนี้ได้นำ Lenovo Legion 7i และ Lenovo Legion 5i มาอัปเกรดระบบระบายความร้อนใหม่ในชื่อ Legion “Coldfront: Hyper” ซึ่งออกแบบมาเพื่อจัดการกับความร้อนภายในตัวเครื่อง โดยเปลี่ยนการไหลเวียนของอากาศภายในแชสซี และส่งลมร้อนจากชิปผ่านส่วนกลาง Hyperbaric chamber ทำให้ระบบ Coldfront: Hyper นี้ ปรับการแลกเปลี่ยนอุณหภูมิให้เหมาะสม และในส่วนของ D-cover ด้านล่างจะช่วยให้แน่ใจว่าลมร้อนจะแยกออกจากลมเย็นที่พัดลมคู่ดูดเข้ามา ทำให้ฮาร์ดแวร์เย็นลงและเป็นผลให้อัตราเฟรมเรทสูงขึ้นสำหรับเกมเมอร์นั้นเอง

นอกจากซีรีส์ Legion แล้ว ตัว Lenovo LOQ ก็ยังได้ระบบระบายความร้อนใหม่เช่นกันอย่าง Hyperchamber ช่วยให้ชิปประมวลผลเย็นลง ด้วยการดึงพลังงานเพิ่มเติมสูงสุดถึง 25W ในโหมด Extreme ขณะที่รักษาอุณหภูมิผิวให้เย็นลงถึง 2°C และยังลดเสียงรบกวนของพัดลมได้มากถึง 2dB เมื่อเทียบกับรุ่นล่าสุด

และแน่นอนว่าทั้ง Legion กับ LOQ ก็มาพร้อมฟีเจอร์ AI ตามเทรนด์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ Customized หรือปรับแต่งการใช้งานได้อย่างเต็มที่ ทั้งระบบระบายความร้อน การแสดงผล ระบบเสียง ประสิทธิภาพ และอื่น ๆ ซึ่งจะมี AI อยู่เบื้องหลัง ช่วยดูพฤติกรรมการใช้งานอย่างผู้ใช้ จะได้ทำการปรับแต่งระบบต่าง ๆ ของตัวเองได้เหมาะสมโดยอัตโนมัตินั้นเอง

สำหรับ Legion กับ LOQ ก็มีเปิดตัวใหม่ตามนี้

• Lenovo Legion 7i (16”, Gen 9), Lenovo Legion 5i (16”, Gen 9) และ Lenovo Legion Slim 5 (16”, Gen 9): สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการแล็ปท็อปสำหรับเล่นเกมและแอพ STEM
• Lenovo Legion 9i (16″, Gen 9): ด้วยดีไซน์ที่ก้าวล้ำเหมาะสำหรับการเล่นเกมระดับสูงและการสร้างผลิตคอนเทนต์
• Lenovo Legion Pro 7i (16”, Gen 9) และ Lenovo Legion Pro 5i (16”, Gen 9): มอบที่สุดของประสิทธิภาพในด้าน FPS รวมไปถึงสไตล์ และประสิทธิภาพของหน้าจอ
• Lenovo Legion Tower 7i และ Lenovo Legion Tower 5i: ประกอบด้วยแรงม้าพีซีสำหรับเล่นเกมทาวเวอร์ในระดับสูงสุด
• Lenovo LOQ 15IRX9, Lenovo LOQ 15IAX9I, Lenovo LOQ 15IAX9 และ Lenovo LOQ 15AHP9 เช่นเดียวกันกับ Lenovo LOQ Tower 17IRR9 สำหรับเกมเมอร์ที่เริ่มต้นขึ้นสู่ลีดเดอร์บอร์ด

สำหรับราคาและวันวางจำหน่าย รอติดตามได้เร็ว ๆ นี้